เหตุผลประการเดียวที่ทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้คือ อยากดูพี่หม่ำแกบ้าเต็มฟัดสักรอบ เพราะเรื่องที่ผ่านๆ มา แกก็ฮาแบบพอหอมปากหอมคอ แต่คาดว่าเรื่องนี้ด้วยเดชเดชาพี่หม่ำแกเนี่ย คงวาดลีลาแรดเรียกบิดาแบบเกินร้อยแน่นอน
เหตุผลประการเดียวที่ทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้คือ อยากดูพี่หม่ำแกบ้าเต็มฟัดสักรอบ เพราะเรื่องที่ผ่านๆ มา แกก็ฮาแบบพอหอมปากหอมคอ แต่คาดว่าเรื่องนี้ด้วยเดชเดชาพี่หม่ำแกเนี่ย คงวาดลีลาแรดเรียกบิดาแบบเกินร้อยแน่นอน
ขบวนการแก๊งสามช่านี่ดังซ้ำดังซ้อนเลยนะครับ ทำอะไรก็เป็นเงินไปเป็นทองไปหมด เกิดจากชิงร้อยชิงล้านแล้วตามมาบ้าในระเบิดเถิดเทิง จนตอนนี้แต่ละเจ้ามีงานทั้งหนังใหญ่และพิธีกรรายการของตัวเองกันเพียบไปหมดแล้ว
เรามาย้อนรอยหนังเก่าๆ ให้หมดไส้หมดพุงเลยนะครับ แต่คาดว่าคงหมดยากเพราะมีอีกเพียบเหลือเกินในสต็อก ทั้งชีวิตไม่รู้จะสรรหามาเล่าได้หมดหรือเปล่า
สาธุคุณ เฟรด สุลต่าน (Samuel L. Jackson) โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง ที่มีนักมวยในสังกัดอย่าง เจมส์ โรเปอร์ (Damon Wayons) ผู้ไม่เคยแพ้ใคร แต่ก็เพราะไม่เคยพ่ายนี่แหละครับ คนดูเลยหร่อยหรอ ก็ดูๆ ไปมันก็ไม่สนุกอ้ะ ชกยังไงก็ไม่พลิกโผ
ไม่มีอะไรกวนโทสะได้มากไปกว่าการที่เครื่องคอมดันมาแฮงค์ตอนเรากำลังพิมพ์เพื่อโพสต์ลง!
ผู้กำกับ Ivan Reitman ดูเหมือนจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างเพราะเขาได้ทำสองอย่างใหญ่ๆ อย่างแรกคือการสร้างสรรค์หนังกำจัดผีสุดสนุกอย่าง GhostBusters และอย่างที่สองคือการจับเอาพี่บึ้กคนเหล็ก Arnold Schwarzenegger มาแสดงในหนังตลกเบาสมอง
ภาพยนตร์แนวแอ็กชันสไตล์ถนัดของผู้อำนวยการสร้าง Jerry Bruckheimer ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ CIA รุ่นเก๋านามว่า โอ๊คส์ (Anthony Hopkins) ต้องสูญเสียลูกน้องมือดี เควิน โป๊บ (Chris Rock) ไป ซึ่งพอดีว่าเควินกำลังปฏิบัติการสำคัญอยู่ ซึ่งหากอยากให้ปฏิบัติการดำเนินต่อไปได้ก็มีอยู่ทางเดียวนั่นคือต้องทำยังไงก็ได้ ที่จะหาคนที่หน้าเหมือนเควินมารับช่วงต่อ
ถ้าหากเรามานั่งพิจารณาว่ากันด้วยเหตุและผลแล้วนะครับ หนังเรื่องนี้น่าจะมันส์ เพราะเป็นการจับคู่ที่น่าสนใจเลยล่ะครับ คนหนึ่งก็คือพี่ Samuel L. Jackson พี่ดำที่เอะอะก็สบถ ด่าแหลก แล้วก็ขยันใช้กำลัง หรือถ้าใครพูดจาไม่ถูกหูก็จะโดนจ้องด้วยตาอันเหลือกที่เกือบจะทะลักออกมาจากเบ้า ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ Eugene Levy ดาราตลกที่เกิดมาเพื่อพล่ามครับ แล้วก็มีหน้าตาอันบ้องแบ้ว อินโนเซนซ์
นี่เป็นหนังที่ผมไม่ได้ดูจากแผ่นครับ ไม่เคยเจอแผ่นด้วย แต่ได้ดูทางหนังรอบเช้าของช่อง 3 เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี 2544 โดยประมาณ (ประมาณตรงไหน… ละเอียดขนาดเนี่ย 555)
ก็เป็นงานหนังภาคต่อจาก My Boss, My Hero นะครับผม เคยเข้าฉายบ้านเราด้วย และผมก็ตามไปดูในโรงเหมือนกัน ซึ่งภาคแรกก็ถือว่าสนุกสนานไม่เลวครับ แม้อะไรๆ ยังไม่ลงตัวนัก แต่ความฮาส่วนมากก็มาจากทีมพากย์พันธมิตรเรานี่แหละ