Action

Transformers: Revenge of the Fallen (2009) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น

Optimus-Prime-transformers-revenge-of-the-fallen-27487285-1024-768

ภาคต่อที่อุดมฉากแอ็กชันมากกว่าเก่าครับ เรื่องราวคราวนี้เริ่มเมื่อแซม วิทวิคกี้ (Shia LaBeouf) ตัวเอกจากภาคแรกที่อยากหันมาใช้ชีวิตธรรมดาแบบคนอื่นเขา เลยขอออกห่างจากเหล่าผองเพื่อนหุ่นยนต์ออโต้บอทเพื่อมาเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที

แต่จนแล้วจนรอดแซมก็หนีการผจญภัยครั้งใหม่ไม่พ้น เมื่อเศษของ “เดอะคิวบ์” ที่ติดอยู่ในเสื้อของแซมมาแผลงฤทธิ์ พอเขาโดนมันเข้าก็เกิดภาพมากมายผุดขึ้นในหัว ซึ่งไอ้ภาพเหล่านี้แหละครับเป็นอะไรที่เหล่าหุ่นยนต์ฝ่ายร้ายอย่างดีเซปติคอนต้องการจะได้มาพอดี ทำให้พวกนั้นออกตามล่าแซมอีกครั้ง ส่วนพวกออโต้บอทที่ตอนนี้กำลังจับมือช่วยเหล่าทหารในการกวาดล้างหุ้นนอกแถวก็เลยต้องรีบกลับมาช่วยแซมอีกหน

ภาคนี้เราจะได้เจอกับฟอลเลน อาจารย์ของเมกาตรอน หัวหน้าหุ่นฝ่ายดีเซปติคอนที่มีแผนชั่วร้ายบางอย่างต่อโลกของเราด้วย

ครับ ภาคนี้แอ็กชันเยอะขึ้น Effect เยอะขึ้น หุ่นก็เยอะ และตัวใหม่ที่มานี่ก็มีขนาดใหญ่กว่าคราวก่อน การผจญภัยก็ไปหลายที่มากขึ้น จากอเมริกาไปสุดที่พีระมิดโน่นน่ะครับ หลายอย่างเลยดูอลังขึ้น

แต่ถ้าให้ว่าจากใจผมชอบภาคนี้น้อยที่สุดในบรรดาไตรภาคแรก คือมันยังดูสนุก ยังดูได้ครับ เพียงแต่ไม่รู้สึกว่ามันน่าติดตาม ไม่เหมือนภาคแรกและภาคสามที่มันมีปมน่าสนใจ การเดินเรื่องมีลำดับ มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างแอ็กชันกับดราม่าในระดับที่น่าพอใจ ว่าง่ายๆ คือมีการแบ่งบทระหว่างคนกับหุ่นยนต์ในระดับที่พอเหมาะ หุ่นก็ให้ความมันส์ไป ส่วนคนก็ทำให้เราอินกับเรื่องราวได้ คอยบอกเล่าเหตุการณ์ให้เราติดตามไป ทำให้เรารู้สึกลุ้นว่าพวกเขาจะรอดจากเรื่องวุ่นวายไปได้ไหม

แต่กับภาคนี้เหมือนแอ็กชันจะมากจนเรารู้สึกนิ่งน่ะครับ ครึ่งแรกของหนังก็ยังพอตื่นตา แต่พอเห็นอีกๆๆๆๆ แอ็กชันๆๆๆๆ ก็อดไม่ได้ที่้จะรู้สึกนิ่งเพราะชักจะชินแล้ว มันระเบิดมันซัดกันก็ตามสบาย แต่เราชักจะไม่ตื่นเต้นตามแล้ว

แอ็กชันเยอะใช่จะดีเสมอไปครับ มันต้องพอดี พอเหมาะ เหมือนทุกอย่างนั่นแหละครับ

ด้านมิติตัวละครและความสัมพันธ์ถือว่าสำคัญนะครับ เราจะอินไม่อินเนี่ยอยู่ตรงนี้เลย ภาคนี้รู้สึกพวกแซมและมิเคล่าดูไม่มีความเด่นเท่าคราวก่อน แม้จะปมความรักของพวกเขา มีพ่อแม่ตามมาฮา หรือมีตัวละครขโมยซีนอย่างซิมมอนส์ (John Turturro) ตามมาสร้างความบันเทิงให้ แต่ก็ดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่พอที่จะทำให้เราสนใจได้เท่าภาคก่อน

การเห็นหุ่นตีกัน ระเบิดกัน ซัดกันนัวแบบเพียวๆ ไม่ค่อยมีปมโยงคนดูให้อินให้รู้สึกมีเอี่ยวนั้น ก็ใช่จะทำให้เราฟินได้เสมอไปนะครับ

แต่ก็อย่างที่บอกครับ ถ้าชอบแอ็กชันและสนุกกับหนังแนวนี้ผมว่าคุณก็ยังสนุกกับหนังได้อยู่ครับ เพียงแต่รสชาติบางอย่างมันขาดหาย และปริมาณแอ็กชันที่มากจนล้นจนเกินจุดอิ่มของคนดู บางทีก็ทำให้ความมันส์ลดลง ความสนุกแปรผกผันกับฉากแอ็กชันในเรื่องได้

ความรู้สึกที่ผมมีต่อภาคนี้ เหมือนตอนดู Bad Boys II น่ะครับ คือมันมีงานด้านภาพมากกว่าภาคแรก แอ็กชันก็มากกว่า ฉากระเบิดสันตะโรก็มากกว่า แต่เสน่ห์ที่ทำให้เราชอบภาคแรกอย่างเสน่ห์ของตัวละครทั้งน้อยและใหญ่ เสน่ห์ของการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ ดึงคนดูให้อินไปกับเรื่องราว เสน่ห์เหล่านี้ดูลดลงแล้วถูกแทนด้วยแอ็กชันแทน

ทั้ง 2 เรื่องที่ผมพูดก็ล้วนเป็นงานของ Michael Bay นั่นแหละครับ

แต่กระนั้นภาคนี้ก็ทำเงินสูงสุดในอเมริกาครับ โกยไป $400 ล้าน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ารายได้นอกสหรัฐไม่ค่อยจะต่างจากภาคแรกนัก (ภาคแรกได้นอกอเมริกาไป $390 ล้าน ส่วนภาค 2 ได้ไป $ 430 ล้านโดยประมาณ) ในขณะที่ภาคที่ทำเงินสูงสุดถ้านับจากรายได้รอบโลกต้องยกให้ภาค 3

ดูเอามันส์ได้แบบสบายๆ ครับ

สองดาวครับ

Star21

(6/10)