ตี๋เหรินเจี๋ยคือบุคคลในประวัติศาสตร์จีนอีกท่านหนึ่งท่านได้รับการกล่าวขวัญถึง โดยดำรงตำแหน่งสูงสุดเป็นอัครมหาเสนาบดีแห่งราชวงศ์ถัง และที่สำคัญคือได้รับใช้ราชสำนักในรัชสมัยพระนางบูเช็กเทียน กล่าวกันว่าตี๋เหรินเจี๋ยมีบทบาทอย่างยิ่งในการทูลเสนอแนะให้พระนางบูเช็กเทียนปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง โดยลดความรุนแรงโหดร้ายลง และให้มาใช้หลักคุณธรรมและเมตตาแทน
ผมนั้นรู้จักตี๋เหรินเจี๋ยจากนิยายน่ะครับ ยอมรับว่าอ่านแล้วติด ตอนแรกก็ท้อแท้ในความหนาเหมือนกัน เล่มก็เบ้อเร่อขนาดนั้น แต่พออ่านแล้วปรากฏว่าติดครับ ทีนี้ล่ะยาวเลย อ่านถึงตีอะไรก็ไม่อยากนอนจนกว่าจะอ่านจบคดีค่อยว่ากัน (และแน่นอนว่าผมต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่เปิดคดีต่อไป เดี๋ยวอยากอ่านต่ออีก 555)
ตี๋เหรินเจี๋ยฉบับนิยายนั้นมีความเด่นในเรื่องการสืบสวนครับ คดีมันอาจไม่ได้พิสดารหรือหักมุมอะไรมากมาย แต่ความสนุกอยู่ตรงการคิดวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ของตี๋กง ประเมินว่าหลักฐานนี้นำไปสู่อะไร สถานการณ์นี้น่าจะมีปัจจัยอะไร แล้วก็วิเคราะห์แบบรอบมุมมากๆ ครับ ไม่ตีความสรุปเพียงด้วยการวิเคราะห์เพียงมุมเดียว ดูแล้วก็เหมือนบริหารสมองให้มองต่างมุม มองหลากปัจจัย โดยส่วนตัวแล้วเหมือนสมัยดูเปาบุ้นจิ้นเลยครับ
ครั้นมาฉบับหนังก็คาดไว้แล้วครับว่าต้องหนักแอ็กชันกับเอฟเฟคท์แน่นอน ไม่คาดหวังในเรื่องการสืบคดีเลย แล้วผลก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ในเรื่องตี๋เหรินเจี๋ย (หลิวเต๋อหัว) กลับมายังเมืองหลวงเพื่อรับบัญชาพระนางบูเช็กเทียน (หลิวเจียหลิง) ในการสืบคดีประหลาด เพราะมีขุนนางมากมายจู่ๆ ไฟก็ลุกท่วมถึงแก่ความตายอย่างเป็นปริศนา พระนางก็ทรงประเมินว่าน่าจะเกิดจากคนคิดแผนร้าย หมายทำลายบ้านเมืองและอาจคิดล้มราชบัลลังก์ของพระนางก็เป็นได้
หนังก็ถือว่าดูเพลินครับ พอสนุกอยู่ จุดเด่นอยู่ที่นักแสดงทั้งหลายไม่ว่าจะหลิวเต๋อหัว, หลิวเจียหลิง, เหลียงเจียฮุย (รับบทซาถัวจง เพื่อนเก่าของตี๋เหรินเจี๋ย), หลี่ปิงปิง (รับบทฉางกวนจิ้งเอ๋อ คนสนิทข้างกายบูเช็กเทียน) และ เติ้งเชา (รับบท เพ่ยตงไหล) ตามด้วยฉากบู๊และเอฟเฟคท์สไตล์ผู้กำกับฉีเคอะ อย่างฉากบู๊กันในลำคลองใต้ดินนั่นก็ทำออกมาได้มันส์ดีครับ
ส่วนในด้านการสืบคดีก็ตามคาดครับ มีในระดับโอเคแต่ก็ไม่ได้เข้มข้นน่าติดตามขนาดนั้น ดังนั้นถ้าเป็นในส่วนของการสืบต้องไม่คาดหวังจนเกินไปครับ แต่หากหวังในแอ็กชันอะไรเหล่านี้ก็อาจจะพอสนุกเพลินได้อยู่ จริงๆ หนังจะเจ๋งมากๆ ล่ะครับถ้าเพิ่มการสืบให้เร้าใจชวนติดตามกว่านี้ เพราะแอ็กชันผมว่ามันก็โออยู่แล้วน่ะครับ ตามสไตล์ของผู้กำกับฉีเคอะ
โดยรวมก็ดูเพลินดีครับ แต่ยอมรับว่ายังไม่ถึงกับชอบหรือโดนใจนัก ส่วนหนึ่งอาจเพราะอ่านนิยายมาแล้วมันโดนกว่า เข้าทางกว่า ดังนั้นไม่ต้องเชื่อผมมากครับ ถ้าชอบหนังจีนกำลังภายในผสมสืบสวนก็ลองดูได้เลยครับ เพราะถ้าว่าตามจริงระยะหลังนี่ก็ไม่มีหนังแบบนี้ออกมาให้ชมสักเท่าไร อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ดูเพลินได้ไม่ผิดหวังครับ ผมชอบมากกว่า 4 มหากาฬพญายม เยอะเลย
ในด้านความสำเร็จทางรายได้นี่ต้องถือว่าน่าพอใจเลยครับ เพราะทำเงินทั่วโลกไม่ต่ำกว่า $51 ล้านเหรียญ (จากทุน $20 ล้านเหรียญ บางแหล่งก็บอกว่าทุนแค่ $13 ล้านเท่านั้น) จนไม่แปลกใจที่จะมีการเข็นภาคต่อตามออกมา
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)