ไม่รู้ทำไมตอนดูโปสเตอร์นี้ ผมก็นึกถึง Suicide Squad ขึ้นมา ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่พอดูและรู้เนื้อเรื่องเท่านั้นแหละ ก็ตระหนักเลยว่าผมไม่ได้คิดไปเอง และมันไม่ได้บังเอิญแม้แต่น้อย
ไม่รู้ทำไมตอนดูโปสเตอร์นี้ ผมก็นึกถึง Suicide Squad ขึ้นมา ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่พอดูและรู้เนื้อเรื่องเท่านั้นแหละ ก็ตระหนักเลยว่าผมไม่ได้คิดไปเอง และมันไม่ได้บังเอิญแม้แต่น้อย
จำได้ว่าช่วงหนัง 7 ประจัญบานออกฉายใหม่ๆ ผมเคยมีคำถามว่าทำไมไม่มีคนลองทำหนังไทยแนวแอ็กชันที่เอาดาราลายครามมารวมพลังกัน เป็นหนังแอ็กชันวัยดึกสายเข้มผสมฮาอะไรก็ได้ ผมว่ามันน่าจะเจ๋งดี และเป็นการไว้ลาย ให้พื้นที่กับดาราอาวุโสด้วย
ผมชอบเทศกาลคริสต์มาสครับ จะว่าผมกระแดะ ดัดจริต หรืออะไรก็ไม่ว่ากัน แต่ผมรักวันคริสต์มาสในฐานะวันแห่งความรู้สึกดีๆ เทศกาลแห่งความอบอุ่น เป็นช่วงเวลาที่บรรยากาศก็ดี ของประดับตามทางก็สวยงาม และเป็นวาระให้คนมากมาย “Slow” ชีวิตตัวเองลงบ้าง
หนังคริสต์มาสอบอุ่นๆ อีกเรื่องที่ดูแล้วเพลินกว่าที่คิดครับ ยอมรับว่าตอนแรกไม่คาดหวังอะไรเพราะดาราก็ไม่ได้ดึงดูดขนาดนั้น แต่ครั้นได้ดูแล้วถือว่าเวิร์กและให้ความรู้สึก Feel Good ได้มากกว่าที่คิด
ผมมี 2 แรงจูงใจใหญ่ๆ ในการดูหนังเรื่องนี้ครับ แรงจูงใจแรกคือเพราะมันเป็นหนังว่าด้วยวันคริสต์มาส หนึ่งในเทศกาลที่ผมชอบ และหากทำดีๆ แล้ว หนังจะมีอะไรให้ Feel Good พร้อมทั้งมีความอบอุ่นมอบให้กับเราได้เสมอ
ปีนี้ตลาดหนังต้อนรับวันคริสต์มาสจัดว่ามีความหลากหลายครับ อย่างที่บอกว่าหนังแนวนี้เงียบหายไปหลายปี คนทำออกมาน้อย จะเหลือก็แต่ Hallmark เท่านั้นที่ขยันทำออกมาทุกปีๆ ครั้นมาปีนี้ หลายค่ายเริ่มทยอยทำออกมา
ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ว่าจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ดีไหม เพราะว่าตามจริงผมก็ไม่ถึงกับชอบอะไรมากครับ แต่พอคิดไปคิดมามันก็มีประเด็นชวนให้เขียน เนื่องด้วยผมเขียนเกี่ยวกับหนังคริสต์มาสไปหลายเรื่อง เลยทำให้เรื่องนี้มันมีอะไรที่สอดคล้องกับประเด็นที่ผมกำลังสังเกตอยู่พอดี
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกหลากอารมณ์ผสมๆ กันครับ แม้หน้าหนังจะว่าด้วยวันคริสต์มาส แต่ตัวหนังไม่ได้มาในแนว Feel Good ไม่ได้เต็มไปด้วยความแฮ้ปปี้แบบหนังเทศกาลทั่วๆ ไป แต่มันออกมาแนวตลกร้ายน่ะครับ
ดูจบแล้วคิดออกมา 2 อย่างโดยประมาณครับ อย่างแรกคือหนังจัดว่าดูสนุกมากกว่าที่คิดไว้ เดินเรื่องลื่นไหล ตัวละครมีเสน่ห์ ดาราก็สวมทบได้ลงล็อค และแทรกอารมณ์ขันลงไปแบบพอเหมาะสุดๆ
พฤติกรรมการดูหนังของคนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ ส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงก็คือความก้าวไกลของเทคโนโลยี โดยยุคนี้ดูจะเป็นยุคสมัยแห่งการดูออนไลน์ การดูอยู่กับบ้าน หรือดูที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วเพียงอย่างเดียว