อีกครั้งกับหนังดูสบายสไตล์ Hallmark ครับ ทำไปทำมาก็ดูท่าว่าผมจะติดใจหนังค่ายนี้แบบเต็มๆ ไปเรียบร้อย เพราะแต่ละเรื่องมันดูสบายจริงๆ ครับ พล็อตไม่ซับซ้อนแต่ก็ไม่โล่งโถงจนหาสาระไม่เจอ

ว่าง่ายๆ คือดูแล้วได้ความสบายใจ บวกด้วยได้อะไรเก็บไปคิดเสมอน่ะครับ จะต่างกันก็แค่บางเรื่องชอบมากบางเรื่องชอบน้อยเท่านั้นเอง ยิ่งหนังเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสนี่ ตอนนี้ผมพึ่งค่ายนี่เป็นหลักเลยครับ

ความจริงที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งก็คือ หนังแนวอบอุ่นว่าด้วยเทศกาลคริสต์มาสนั้นคงขายไม่ได้ในโรงใหญ่เท่าหนังอลังการน่ะครับ ไม่เหมือนยุค 80 – 90 ที่หนังแนวนี้ยังมีป้อนเข้าโรงอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ก็มี Hallmark นี่แหละครับ ที่มีให้ดูเสมอทุกปี

หนังเล่าถึง ซาร่า โธมัส (Lacey Chabert) สาวเก่งที่มักจะโดนเจ้านายตัวดี (Jason McKinnon) ขโมยไอเดียเธอไปสร้างความดีความชอบให้ตัวเองเสมอ จนเธอเองก็เริ่มจะท้อแท้ในการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วในงานคริสต์มาสของบริษัท เธอก็ได้เจอกับคนแต่งชุดเป็นซานตาคลอสเดินเข้ามาพร้อมยื่นซองจดหมายให้ ในซองนั้นมีการ์ดเขียนถึงเธอว่า เธอสามารถขอพรอะไรก็ได้ 1 อย่าง แล้วพรนั้นจะเป็นจริง แต่พรที่ว่าจะอยู่ได้แค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น

ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อเท่าไรครับ แต่ก็เอ่ยออกไปว่าเธออยากได้ความกล้า อยากได้ความมั่นใจที่จะทำอะไรแบบตรงๆ ตามที่ใจคิด เพราะที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายยอมคนอื่นตลอด เธอเลยอยากเป็นคนกล้าพูดตรงๆ บ้าง

แล้วพรก็ออกฤทธิ์ครับ ในที่สุดเธอก็พูดตามใจคิดจนส่งผลให้เธอได้ร่วมโปรเจคท์ใหญ่กับนายใหญ่อย่างปีเตอร์ วิลเลี่ยมส์ (Paul Greene) ในการเดินทางไปพรีเซนต์งานต่อหน้าลูกค้ารายใหญ่

ครับ หนังเรื่องนี้ดูสนุกเพลินๆ ตามสไตล์ครับ จุดเด่นที่ยังเด่นเสมอสำหรับหนัง Hallmark คือภาพสวยๆ โลเกชั่นอบอุ่น และมุมกล้องที่เข้าท่าไม่แพ้หนังใหญ่ (จริงๆ ผมว่าดีกว่าบางเรื่องอีกนะ) อย่างในเรื่องนี้ก็มีฉากสวยๆ ให้อิ่มตาอยู่เรื่อยๆ ครับ

ต้องบอกก่อนว่า “ภาพสวย” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงภาพธรรมชาติหรือวิวอลังการน่ะครับ (มันคือหนังโรแมนติกครับ ไม่ใช่ Lord of the RIngs 555) แต่ผมหมายถึงฉากอย่างฉากในเมือง ฉากบ้านสวยๆ ที่ปกคลุมด้วยหิมะ หรือฉากท้องถนนที่มีแสงไฟประดับกับต้นสนเขียวสด ถึงแม้นี่จะเป็นเพียงหนังทีวี แต่ความพอดีของมุมกล้องมันได้ครับ ภาพออกมากำลังสวย ได้อารมณ์น่ารักและอบอุ่นแบบกำลังดี ซึ่งนี่ถือเป็นของดีที่ผมติดใจเสมอในหนังของ Hallmark ครับ

Chabert ก็ฉลุยอยู่แล้วกับบทแบบนี้ (เรื่องนี้เธออำนวยการสร้างด้วยครับ) Greene ก็ดูเหมาะกับคาแรคเตอร์ แต่ในแง่ความเด่นอาจไม่เยอะเท่า Chabert ซึ่งถ้าให้ว่าตามจริง ดาราในเรื่องถือว่าเล่นได้โอเคครับ เพียงแต่อาจจะไม่ถึงกับดูเด่นเท่านั้นเอง

สาระดีๆ ของหนังก็ชี้ชวนให้เรามีความกล้าครับ กล้าที่จะปกป้องสิทธิ์ กล้าที่จะทำในสิ่งที่คิด (ตราบใดที่มันไม่เดือดร้อนใคร) แต่ขณะเดียวกันก็ใช่จะกล้าแบบไร้ขอบเขต ประเภทว่าพูดจนถึงขั้นทำให้คนเกิดความไม่พอใจ แบบนั้นก็ถือว่าเยอะเกิน เราเองก็ต้องกลั่นกรองความกล้าและการแสดงออกของเราให้พอเหมาะกับสถานการณ์ด้วยครับ

ตัวหนังดูเพลินดีครับ เพียงแต่บทสรุปอาจลงเอยง่ายไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นหนังโรแมนติกวันคริสต์มาสที่ทำออกมาได้น่าพอใจอีกเรื่องหนึ่ง จริงๆ ผมว่าแค่ดูภาพสวยๆ บรรยากาศดีๆ ก็ทำให้ใจสบายได้เยอะแล้วล่ะครับ

สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)