Action

พยัคฆ์สาวจ้าวอินทรี (1975) Lady of the Law

เจ้าสำนักเจียวเทียนหาว (Tung Lin) ฉายามีดบินไฟ คุ้มกันสินค้าเดินทางมา แต่ถูกพวก 4 เพชฌฆาตใช้ชีวิตของเจียวเยี่ยนเอ๋อลูกชายของเขาข่มขู่เพื่อชิงสินค้า และพวกมันยังวางแผนใส่ความทำลายชื่อเสียงเจ้าสำนักเจียวว่าเป็นตัวการในการปล้น อีกทั้งยังหมายจะฆ่าเจียวเยี่ยนเอ๋อปิดปาก แต่โชคดีที่แม่ชีคิ้วขาว (Ouyang Sha Fei) เดินทางผ่านมาและได้ขอชีวิตของเยี่ยนเอ๋อเอาไว้ แล้วเจ้าสำนักคุ้มภัยวั่นเฉิน เฉินฮั่วถัง (หยางฉีอิง, Yang Chi Ching) – ที่จริงๆ แล้วก็มีส่วนในการปล้น – ก็เลยรับเลี้ยงเยี่ยนเอ๋อเป็นการบังหน้า

เมื่อเยี่ยนเอ๋อ (หลอลี่, Lo Lieh) เติบใหญ่ เขาได้ลอบฝึกวิชามีดบินไฟของพ่อรวมถึงแอบฝึกวิทยายุทธ แต่พอดีในเมืองเกิดคดีโจรปล้นสวาทขึ้น ทำให้มือปราบสาวเหลิ่งหยูซวง (ซือซือ, Shih Szu) ถูกส่งมาเพื่อจัดการ แล้วก็กลายเป็นว่าเยี่ยนเอ๋อถูกใส่ความว่าเป็นโจรปล้นสวาทอีก งานนี้เขาเลยต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมทั้งแก้แค้นให้พ่อให้จงได้

สมทบด้วย เจิ้งเหล่ย (Cheng Lei) เป็นหนึ่งใน 4 เพชฌฆาตตัวร้าย, ซื่อเทียน (Dean Shek) เป็นคุณชายเฉินจอมหื่นกาม ลูกชายเฉินฮั่วถัง, เจียนเซิน (Chan Shen) เป็นมือปราบเหยียนปี้เซียนที่มีหน้าที่ตามจับโจรสวาท และจางเพ่ยซัน (Chang Pei Shan) รับบทเจ้าหุบเขาร้อยบุปผาที่ก็บ้าผู้หญิงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร และหนังกำกับโดย Shen Chiang และ Stanley Siu Wing ครับ

อย่างแรกเลยที่อยู่ในหัวผมตลอดการดูหนังเรื่องนี้คือ ยุทธภพในหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าหนักใจมาก เพราะมันดูเหลวแหลกและเลวร้ายซะเหลือเกิน ประมาณว่าเหล่าเจ้าสำนักหรือเจ้าหุบเขาล้วนแต่ลุแก่อำนาจ ชอบทำชั่วเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้ตนเอง จะให้ร่วมมือกับโจรก็ไม่มีปัญหา ตามด้วยความพร้อมในการปกปิดความผิด – วิธีที่ใช้บ่อยคือใส่ความและโยนความผิดไปให้คนอื่นซะ อีกทั้งยังพร้อมสังหารคนได้ทุกคนตั้งแต่คนธรรมดายาวไปถึงมือปราบทั้งหลาย เรียกว่าใครมาขวางทางก็จัดการหมดเรียบ

ส่วนลูกหลานกับลูกน้องของคนเหล่านี้ก็พอกันครับ หลักๆ เลยคือบ้ากามอย่างแรง เป็นหมดไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย คือถ้าเป็นผู้หญิงก็มีโอกาสโดนลวนลาม หรือต่อให้เป็นผู้ชายก็ใช่จะรอดเพราะบางพื้นที่ (เช่น หุบเขาร้อยบุปผา) ก็มีกองกำลังสตรีเพศที่พร้อมจะจับผู้ชายมาเป็นของเล่น – เป็นยุทธภพแบบที่ดูไปแล้วส่ายหัวไปเลยครับ 5555

แต่ก็พอเข้าใจแหละครับว่าหนังออกแนวยำ คือยำตัวละครประเภทสร้างความวุ่นวายใส่ลงมาทุกแนว ทั้งเจ้าสำนักชั่ว เจ้าหุบเขาหื่น ลูกชายเจ้าเล่ห์ ลูกน้องช่างยุ ใส่ลงมาเป็นขวากหนามให้พระเอกนางเอกต้องสู้กันไป เช่นเดียวกับตัวหนังที่ผมว่ายำหลายอย่างทั้งแนวแอ็คชั่น สืบสวน ล้างแค้น แล้วก็คล้ายๆ จะมีแนวรักเล็กๆ แซมลงมา ในแง่หนึ่งก็ต้องพูดตรงๆ ล่ะครับว่าหนังอาจไม่กลมกล่อมนัก แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่แย่นะ คือพอดูได้แบบดูเอาสนุกเอาเพลิน ถ้าดูแบบคิดมากหน่อยก็อาจรำคาญในบางจุดบางประเด็น แต่ถ้าดูแบบปล่อยจอยว่าผมว่าหนังมันก็ได้เรื่อยๆ อยู่

อีกอย่างคือหนังสั้นด้วยครับ แค่ชั่วโมงครึ่งเอง อันนี้คิดแล้วก็แอบฮา เพราะเนื้อเรื่องมันดูอีรุงตุงนัง ตัวละครก็เยอะ แต่ไปๆ มาๆ หนังสามารถเล่าจบและคลายทุกอย่างในเวลาชั่วโมงครึ่งได้ซะงั้น

แต่ผมชอบฉากบู๊นะครับ ก็สู้กันมันส์ใช้ได้ ยอมรับเลยว่าซือซือเล่นบทบู๊ได้ดี พี่หลอลี่ก็ใช้ได้เช่นกัน

สรุปว่านี่เป็นหนัง Shaw Brothers สายบันเทิงครับ คือทำออกมาดูเอามันส์เป็นหลัก เนื้อเรื่องไม่หนักไม่หนาอะไร ไม่ถึงกับเจ๋งมากมาย แต่ก็ดูได้แบบไม่ผิดหวัง

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)