ภาคนี้คดีมาเกิดกับตัวออโรร่า (Candace Cameron Bure) โดยตรงเลยครับ เมื่อจู่ๆ สมาคม Real Murders Club ของเธอถูกค้นและทำลายข้าวของจนกระจุย มิหนำซ้ำยังมีภาพถ่ายทิ้งไว้พร้อมข้อความที่หยิบยกมาจากวรรณกรรมเรื่องดัง แล้วมันไม่หยุดแค่นี้ครับ ยังเกิดเรื่องกับคนใกล้ตัวของออโรร่า พร้อมมีข้อความทิ้งไว้ทุกครั้งอีก

แบบนี้ก็ชัดแล้วล่ะครับว่ากำลังมีใครบางคนตั้งใจเล่นเกมกับออโรร่า และมันไม่ได้ปรารถนาดีกับเธอแน่ๆ

จริงๆ ภาคนี้น่าจะมันส์นะครับ เพราะออโรร่าตกเป็นเป้าหมาย แล้วรูปแบบของคดีก็ไม่ใช่การสืบหาคนร้ายแบบทั่วๆ ไป แต่มีตัวร้ายที่ทิ้งปมทิ้งร่องรอยให้ออโรร่ากับพวกคอยไขปริศนา ถ้าว่ากันตามแพทเทิร์นถือว่าน่าสนใจครับ เพียงแต่พอได้ดูจริงๆ ก็พบว่ามันไม่ได้เข้มข้นขนาดนั้น

อย่างการทิ้งปมทิ้งร่องรอยของตัวร้ายนั้น จริงๆ โอเคนะ เอาข้อความจากนิยายสืบสวนเก่าๆ มาใช้ แต่กลายเป็นว่าการวิเคราะห์ไขความหมายจากข้อความเหล่านั้นมันไม่ได้เร่งเร้าให้ตื่นเต้น มันไม่ได้นำไปสู่ปมที่น่าสนใจ และเอาเข้าจริงการตามรอยคนร้ายนั้นสุดท้ายก็เหมือนรอตามเวลา รอตามบทมากกว่า ส่วนตัวร้ายจริงๆ ก็เดาทางได้ไม่ยาก เพราะหนังมาในสูตรสำเร็จเดิมๆ นั่นคือ ใครน่าสงสัยน้อยสุดให้สงสัยตัวละครนั้นไว้ก่อนเลย

กลายเป็นว่าในแง่ของการตามปมไขปมแล้วผมว่าภาคก่อนๆ ดูเวิร์กกว่าครับ การสืบแบบสอบถามคนแวดล้อมไปเรื่อยๆ สังเกตพฤติกรรมตัวละครต่างๆ ไปเรื่อยๆ แบบนั้นกลับดูน่าติดตามกว่า – หรือส่วนหนึ่งอาจเพราะบทในตอนนี้ยังไม่สามารถดึงเอาจุดเด่นของการเอากลวิธีแบบนี้มาใช้ให้ได้ผลสักเท่าไร (กลวิธีแบบตัวร้ายทิ้งหลักฐานท้าทายตัวเอกน่ะครับ)

แต่ก็ยอมรับครับว่าการที่เรื่องมันมาเกิดกับคนรอบตัวของออโรร่า ก็มีเหมือนกันในบางวาระที่เรารู้สึกห่วงใยตัวละครเหล่านั้น ก็ตามดูกันมาตั้งหลายตอนจนคุ้นเคยนี่ครับ มันเลยอดไม่ได้ที่จะห่วงใยไม่อยากให้ออโรร่าและเพื่อนๆ ต้องเป็นอะไรไป จุดนี้ถือว่าหนังทำได้ไม่เลว

อย่างหนึ่งที่รู้สึกเลยก็คือ จุดประสงค์จริงๆ ของการเกิดคดีนี้ ก็เพื่อให้ออโรร่ากับนิค (Niall Matter) รักกันให้เร็วขึ้นน่ะครับ ซึ่งถือว่าพวกเขารักกันเร็วมากนะ เพิ่งเจอกันภาคก่อน มาภาคนี้เข้าข่ายปิ๊งซะแล้ว แต่ก็พอเข้าใจน่ะครับ นี่มันตอนที่ 10 แล้วนี่หน่า เลยต้องให้ออโรร่ามีคู่เร็วเข้าหน่อย และเดาว่าปมประมาณว่าออโรร่ากับนิคจะรักกันไหมน้า มันคงเกร่อน่ะครับหากจะเล่นกับปมนี้ต่อไป เลยรีบๆ ให้รักกันไปเลยดีกว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ

ส่วนตัวละครแวดล้อมขาประจำก็ถือว่ามากันค่อนข้างครับ ไม่ว่าจะ Marilu Henner ในบทของไอด้า แม่ของออโรร่า, Lexa Doig ในบทแซลลี่ เพื่อนซี้นักข่าวของออโรร่า, Peter Benson และ Miranda Frigon คู่ตำรวจที่นอกจากต้องคอยสืบคดีแล้วยังต้องคอยกันออโรร่ากับพวกออกจากคดีด้วย, Ellie Harvie ในบทลิเลียน เพื่อนร่วมงานของออโรร่าที่ไม่ค่อยจะยุ่งกับออโรร่าสักเท่าไร และ Catherine Lough Haggquist ในบทเทอร์รี่ หนึ่งในสมาชิกชมรม และอีกคนที่ทำท่าว่าจะมาประจำรายล่าสุด ก็คือ Dylan Sloane ในบทฟิลลิป ไพเฟอร์ หลานของออโรร่า

ก็ถือเป็นอีกภาคที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ถ้าว่าตามความรู้สึกแล้ว ผมออกจะชอบ 2 ภาคก่อนมากกว่า

สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)