ภาคนี้คดีมาเกิดกับตัวออโรร่า (Candace Cameron Bure) โดยตรงเลยครับ เมื่อจู่ๆ สมาคม Real Murders Club ของเธอถูกค้นและทำลายข้าวของจนกระจุย มิหนำซ้ำยังมีภาพถ่ายทิ้งไว้พร้อมข้อความที่หยิบยกมาจากวรรณกรรมเรื่องดัง แล้วมันไม่หยุดแค่นี้ครับ ยังเกิดเรื่องกับคนใกล้ตัวของออโรร่า พร้อมมีข้อความทิ้งไว้ทุกครั้งอีก
หนังมี 2 ชื่อครับ ชื่อหลักจริงๆ คือ Love, Lights, Hanukkah! เพราะเนื้อหาว่าด้วยความรักในครอบครัวโดยมีเทศกาลฮานุกกะห์เป็นฉากหลัง แต่อาจเพราะเกรงว่าคนบางส่วนไม่รู้จักฮานุกกะห์ หนังเลยมีอีกชื่อหนึ่งยามออกฉายนอกอเมริกาว่า Love, Lights, Holidays! ครับ
ตอนที่ 4 ของนักสืบนักปรุง เฮนรี่ รอสส์ (Dylan Neal) ครับ หนนี้เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขารับงานจัดเมนูอาหารให้กับงานเลี้ยงฤดูร้อนของครอบครัวเวสตัน ที่จัดว่ามั่งมีระดับเศรษฐีทีเดียวครับ โดยเขาก็ชวนแม็กกี้ (Brooke Burns) ตำรวจสาวคู่ใจของเขาไปร่วมงานด้วย
เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายโรแมนติกเบาสมองผสมด้วยสืบสวนของ Joanne Fluke ครับ แปลไทยแล้วในชื่อว่า สายลับช็อกโกแลต ซึ่งออกตามมาอีกเป็นสิบเล่มครับ
ภาค 2 ของหนังชุดนี้ที่มีตัวเอกเป็นช่างสาวนักซ่อมแซมบ้านนามว่า แชนนอน ฮิวจ์ส (Jewel Kilcher) ที่พอปฏิบัติงานทีไรก็มีอันต้องไปเจอร่องรอยคดีฆาตกรรมให้ตามสืบอยู่ร่ำไปครับ
Hallmark ยังคงผลิตหนังแนวสืบสวนดูเพลินๆ ออกมาเรื่อยๆ ครับ แต่ที่ทำให้ผมสนใจเรื่องนี้มากหน่อยก็เพราะตัวเอกของเรานำแสดงโดย Jewel Kilcher นักร้องสาวที่คนรุ่นผม (30 อัพ) น่าจะจำได้ เพราะเธอดูมีเสน่ห์แบบไม่เหมือนใคร
Sandra Brown ถือเป็นเจ้าแม่นิยายแนว Romantic suspense คนหนึ่งของวงการครับ ซึ่งผลงานของเธอก็มีมาให้นักอ่านบ้านเราอ่านอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 เล่มทีเดียว
ช่วงสิ้นปีคือช่วงที่ทีวีหลายๆ ช่องของอเมริกาจะทำหนังที่มีกลิ่นอายของบรรยากาศวันคริสต์มาสออกมาครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมว่าเป็นอะไรที่ดีอยู่นะครับ
หมื่นทิพ's Review 