2012 เป็นหนังที่ผมชอบคว้ามาเปิดดูบ่อยมากๆ เรื่องหนึ่งครับ จนพอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้พอสมควร
2012 เป็นหนังที่ผมชอบคว้ามาเปิดดูบ่อยมากๆ เรื่องหนึ่งครับ จนพอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้พอสมควร
มนุษย์ดาวอังคารขี่จานบินมายึดโลก ไล่ล้างผลาญมนุษย์ ก่อนชาวโลกจะหาทางโต้กลับ… จบแล้วครับ
ดูหนังเรื่องนี้แล้วผมบังเกิดความรู้สึก 2 อย่างพร้อมๆ กัน อย่างแรกคือดูได้สนุกเพลินดี ตามสไตล์หนังบู๊ที่มี Liam Neeson มาแสดงนำ ส่วนอีกอย่างก็คือ อดรู้สึกไม่ได้ว่าบทหนังมันมีช่องโหว่เยอะจัง
Resident Evil หรือ Bio Hazard ถือเป็นเกมชุดแรกครับที่มีโอกาสทำออกมาเป็นหนังจนครบไตรภาค
หนังจับกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงนั้นครับ คือการก้าวสู่ปี 2000 แล้วก็ผูกเรื่องเข้ากับตำนาน “ซาตานต้านพระคริสต์” โดยกำหนดบอกเล่าว่าคืนสุดท้ายแห่งปี 1999 นั้นซาตานจะขึ้นมาจากขุมนรกและกระทำการสมสู่กับมนุษย์เพศหญิงที่ถูกเลือกไว้ แล้วหากมันทำสำเร็จก็จะเท่ากับเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเรืองอำนาจของซาตาน
การดูหนัง Percy Jackson มาแล้ว 2 ภาคทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า “บทหนัง” มากขึ้นครับ เพราะถ้าบทสามารถเขียนโดยถอดเอาเสน่ห์จากนิยายมาใส่ได้แบบลงตัว แล้วก็สร้างเรื่องราวให้มีสมดุลทั้งด้านจินตนาการ ความสนุก และความลื่นไหล เท่านั้นเราก็จะได้หนังสนุกๆ มาประดับวงการอีกเรื่อง
ผมดู TRON รอบแรกตอนอายุสิบกว่าขวบ เห็นปกวีดีโอมันดูเจ๋งดี ภาพสวยสีโดดเด่น แต่ปรากฏว่าดูไม่จบครับ งงมาก ไม่รู้อะไรเป็นอะไร พระเอกมันโดนอะไร และไอ้โลกสีฟ้าๆ นี่มันคืออะไร งงจริงอะไรจริง
นี่คืองานบู๊เต็มตัวเรื่องแรกที่ Brandon Lee ทายาท Bruce Lee แสดงนำเดี่ยวในฮอลลีวู้ดนะครับ
ผมจำชื่อหนังเรื่องนี้ได้เนื่องมาจากตอนนั้นหนังมีการร่วมโปรโมชั่นกับเคเอฟซีหรือแม็คโดนัลด์อันนี้ก็จำได้ไม่แม่น รู้แต่ว่าตอนนั้นไปสั่งแฮมเบอร์เกอร์ชุดเต็มฟัดนี่ทีไรอดฮาไม่ได้ทุกที
วันนี้เวียนมาเจอหนังเบาๆ ดูสบายบ้างนะครับ เรื่องนี้ก็สนุกสนานใช้ได้เสียด้วย เลยต้องเอามาแนะนำไว้สักไว้สักหน่อย