ย้อนเวลาไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้น Starship Troopers ซึ่งเป็นหนังแอ็กชันไซไฟฟอร์มยักษ์แห่งปีกำลังเป็นที่จับตาของผู้ชม และพระเอกของเรื่องอย่าง Casper Van Dien ก็เป็นที่จับตาของหลายๆ คนเช่นกัน
ย้อนเวลาไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้น Starship Troopers ซึ่งเป็นหนังแอ็กชันไซไฟฟอร์มยักษ์แห่งปีกำลังเป็นที่จับตาของผู้ชม และพระเอกของเรื่องอย่าง Casper Van Dien ก็เป็นที่จับตาของหลายๆ คนเช่นกัน
โครงสร้างของหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จแบบเดิมๆ แต่ก็เป็นสูตรที่สามารถให้ความบันเทิงกับคนดูได้อย่างดีเลยล่ะครับหากทำดีๆ วางพล็อตให้แน่นๆ แล้วก็กระหน้ำแอ็กชันให้พอเหมาะหน่อยล่ะก็
ตอนดูตัวอย่างก็มองว่านี่จะเป็นหนัง Home Alone เวอร์ชั่นโหดครับ นึกว่าเป็นเรื่องของเด็กที่อยู่บ้านกับพี่เลี้ยงเพียงลำพัง แล้วมีโจรบุกอะไรแบบนั้น แต่พอดูแล้วเนื้อเรื่องมันไม่ใช่แบบนั้นแฮะและไปๆ มาๆ มันก็ดูโหดกว่าที่คาดด้วย
เคยดูหนังสารคดีแล้วน้ำตาซึมด้วยความรู้สึกอิ่มเอม-Touching บ้างไหมครับ… ผมเคยแล้วหลายครั้ง และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องนี้นี่แหละ (ก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะมี Part ที่ทำให้เราน้ำตาซึมได้)
ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมเริ่มอิ่มตัวกับหนัง Hollywood – เป็นเพราะหนัง Hollywood เองเริ่มย่ำอยู่กับที่ – หรือเพราะมันกำลังเดินไปในทางทิศทางที่เราไม่คุ้น (จนเด็กยุค 90 อย่างผมเริ่มไม่ชินกับมัน) กันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือความรู้สึกเหล่านั้น มันทำให้ผมหันไปหาหนังแนวอื่น สัญชาติอื่น สไตล์อื่นมากขึ้น
หนังเรื่องนี้ก่อให้เกิดความรู้สึก 2 ห้วงขึ้นมาในหัวของผม ห้วงแรกเกี่ยวกับตัวหนัง อีกห้วงหนึ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในเรื่องที่หนังพาเราไปสำรวจ (ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชวนอึดอัดและไม่อยากให้เกิดกับใครทั้งนั้น)
การดูหนังเรื่องนี้ทำให้คิดถึง Bill Paxton ขึ้นมาครับ เพราะนี่คือหนึ่งในผลงานการแสดงเรื่องท้ายๆ ที่เขาฝากไว้ก่อนจากไป ก็ใจหายเหมือนกันครับที่เราจะไม่ได้ดูผลงานการแสดงเรื่องใหม่ๆ ของเขาอีก
ข้อดีอย่างหนึ่งของหนังแนวโรแมนติกคอเมดี้ของ Hallmark ก็คือ สาระแก่นสารของหนังจะเป็นเรื่องของใครสักคนที่พยายามทำตามฝัน ทำเพื่อความถูกต้อง หรือพยายามทำสิ่งดีๆ ให้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องเจออุปสรรคแค่ไหนก็ตาม
หนังเรื่องนี้ดูเพลินกว่าที่คิดครับ มันอาจไม่ได้สุดยอดหรือห้ามพลาดอะไร แต่จัดว่าดูสนุก ครบทั้งเบาสมองและแอ็กชันผจญภัย ถ้าไม่คิดมากก็น่าจะพอใจอยู่ไม่น้อย
เรื่องนี้ก็เข้าทางผมอีกแล้วครับ หนังสไตล์ย้อนยุค ถ่ายทอดแง่มุมชีวิตวัยรุ่นวัยเรียน และกลั้วอารมณ์แบบหนัง Coming of Age เข้าไปอีกหน่อย เป็นอะไรที่ผมชอบอยู่แล้ว ไหนจะชื่อผู้กำกับ Richard Linklater (ไตรภาค Before Sunrise และ Boyhood) เรื่องนี้เลยเป็นหนังน่าดูภาคบังคับสำหรับผมครับ