รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Wedding March 2: Resorting to Love (2017), รีสอร์ทนี้มีรัก 2

Untitled09093

เรื่องราวบทต่อมาครับ หลังจากมิค (Jack Wagner) และโอลิเวีย (Josie Bissett) ตกลงกลับมาคบกันอีกครั้ง โอลิเวียก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับมิคที่รีสอร์ทวิลโลว์ เลค อินน์ แต่แม้พวกเขาจะรักกันทว่าความต่างของทั้งคู่ก็เริ่มออกฤทธิ์ครับ ย่อมมีบ้างที่บางอย่างไม่เข้ากัน ก็เลยเป็นปมให้ทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากัน

นอกจากนี้รีสอร์ทยังประสบปัญหาครับ เพราะมีสถานที่จัดงานแต่งแห่งใหม่มาแย่งลูกค้าไป มิคและโอลิเวียร์เลยต้องหาทางดึงลูกค้ากลับมา และคู่รักที่พวกเขาได้โอกาสจัดงานแต่งให้ก็คือคริส (Aren Buchholz) กับคอรีน (Tara Wilson) ซึ่งคอรีนนั้นวาดฝันงานแต่งไว้อย่างสวยหรู ในขระที่ฝ่ายชายอย่างคริสต้องการอะไรที่มันเรียบง่าย ซึ่งนี่ก็กลายมาเป็นอีกปมหนึ่งเหมือนกัน

ยังไม่หมดครับ ไหมจะมีเรื่องของจูลี่ (Sarah Grey) ลูกของมิคที่ตัดสินใจเปิดตัวแฟนหนุ่มอย่าง ไวแอตต์ (Mitch Ainley) นั่นก็ทำให้มิคเองปั่นปวนซวนเซไปไม่น้อย

สำหรับตอนต่อภาคนี้เรื่องราวมันจะเน้นไปที่ความวุ่นและไม่ลงตัวของชีวิตเสียมากครับ ประมาณว่ามิคกับโอลิเวียร์เองมีเรื่องให้ต้องปรับตัวเข้าหากัน มีขัดแย้งกันเป็นพักๆ ไหนจะคู่ของคริสกับคอรีนที่ตัวคอรีนเองมีความเป็นหญิงเยอะอยู่ไม่ใช่น้อย ทำให้อารมณ์ของภาคนี้ไม่ใคร่จะหวาน แต่ออกจะปั่นๆ ป่วนๆ วุ่นๆ วายๆ ดังนั้นใครคาดหมายความหวานๆ ความน่ารักๆ ก็อาจต้องเผื่อใจไว้หน่อยครับ

แต่ก็เข้าใจคอนเซปต์ของภาคนี้น่ะนะครับ ที่มีประเด็นกระตุ้นเตือนให้คู่รักได้ตระหนักว่าการที่คนสองคนตกลงเป็นแฟนกันนั้น มันไม่ใช่เส้นชัยปลายทาง แต่มันเป็นเพียงการเริ่มต้น มันมีอะไรที่คู่รักต้องศึกษาเรียนรู้กันและกันอีกมาก และการจะอยู่ด้วยกันให้ยืดนั้น ก็ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน บางครั้งต้องยอมถอยคนละก้าว หรือไม่ก็ต้องมองจากมุมของอีกฝ่าย

อย่างเรื่องของคริสกับคอรีนนั้นก็มาพร้อมแง่คิดครับ เมื่อคอรีนพยายามจัดงานแต่งแบบจัดเต็มตามที่เธอวาดภาพไว้ ยิ่งจัดยิ่งใหญ่ยิ่งคิดยิ่งเยอะ ในขณะที่คริสเองแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็พยายามยอมตาม ทว่าพอถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกทนไม่ไหวจนเกือบจะมีเรื่องให้ต้องแยกทางกัน เมื่อคริสรู้สึกว่าเขาเองถูกบังคับให้เปลี่ยน ให้กลายเป็นอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเขา

Untitled09094

และสุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายได้เมื่อต่างฝ่ายต่างเปิดใจ ต่างยอมรับและปรับเข้าหากัน – มันอาจดูเป็นแง่คิดเดิมๆ นะครับ แต่มันไม่เคยเก่า เพราะคู่รักส่วนใหญ่ต่างก็เจออะไรแบบนี้กันมาแล้วทั้งสิ้น มันคือหนึ่งในบททดสอบแห่งชีวิตรัก และไม่ใช่ทุกคู่ที่จะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันได้

ว่าโดยรวมแล้วผมออกจะชอบภาคแรกมากกว่าครับ บรรยากาศมันมีความน่ารักผสมเยอะกว่า ในขณะที่ภาคนี้ก็เข้าใจนั่นแหละว่าหนังตั้งใจนำเสนอด้านวุ่นวายของความรัก ภาพที่เห็นมันเลยไม่ใคร่จะอบอุ่นเท่าไร แต่อย่างน้อยบทสรุปก็ออกมาน่ารักครับ ในแง่การแสดงนี่นอกจากชอบ 2 ตัวเอกแล้ว ผมว่า Wilson ที่เล่นเป็นคอรีนก็เส่นได้ดีนะ ฉากที่เธอน้ำตาคลอแล้วมองคริสเดินจากไปเนี่ย เห็นแล้วสงสารขึ้นมาจับจิต คือมันชัดเลยน่ะครับว่าผู้หญิงคนนี้รู้ใจตัวเองแล้ว รู้ซึ้งแล้วว่างานแต่งจะใหญ่แค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าขาดคนที่เธอรักไปมันก็ไม่ความหมายใดเลย

ที่แอบเสียดายนิดๆ คือดาราหลักจากภาคก่อนบางคนมีบทน้อยลงมากๆ ครับ อย่างเกรซ (Emily Tennant) ลูกของโอลิเวียก็บทหายไปเลย โผล่แค่ตอนต้นและตอนกลางนิดเดียว อีกคนที่จริงๆ ผมชอบแต่โผล่น้อยอีกเหมือนกันก็คือดุ๊ค (Aaron Pearl) รายนี้ถ้าวางบทดีๆ นี่ขโมยซีนได้เลย แต่ก็นั่นแหละครับ บทเหลือนิดเดียวเหมือนกัน

สรุปว่าเป็นภาคต่อที่ดูได้แบบเพลินๆ ครับ เพียงแต่อาจไม่เท่าภาคแรกเท่านั้น

สองดาวครับ

Star21

(6/10)