รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Don’t Look Up (2021)

Untitled07206

Don’t Look Up ถือว่าอยู่ในหมวดหนังตลก

หากแต่มันไม่ใช่ตลกตึ้งโป๊ะ แต่เป็นตลกประเภทตีแสกหน้า เฉาะกบาลดังโพล๊ะ!

พล็อตเรื่องง่ายมาก ดาวหางกำลังจะมาล้างโลก มีนักดาราศาสตร์ 2 คน (Leonardo DiCaprio, Jennifer Lawrence) พยายามบอกให้โลกรู้ แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปดังคาด เพราะดูเหมือนโลกทั้งใบจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้เลย

นอกจากหนังจะอยู่ในหมวดตลกแล้ว ก็คงต้องจัดให้อยู่ในประเภทหนังภัยพิบัติ หายนะวันสิ้นโลก

ภัยพิบัติในหนังเรื่องนี้ถือว่ามาครบ เพราะมาทั้งภัยพิบัติจากธรรมชาติ (ดาวหางพุ่งมา) และภัยพิบัติจากมนุษย์สองขา… ก็ไม่รู้ว่าภัยไหนน่าปวดหัวกว่ากัน

ยอมรับตามตรงว่าตอนดูนี่ผมขำเกือบตลอดเรื่อง แต่เป็นอาการขำที่ทำเอาน้ำตาไหลพรากอยู่ด้านใน เพราะแม้สถานการณ์หลายๆ อย่างในหนังอาจถูกปรุงแต่งให้ดูเว่อร์วังเกินจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องบ้าๆ ที่ดูติงต๊องชวนจี้หลายเรื่องที่มนุษย์ในหนังทำนั้นน่ะ มันก็สามารถเห็นได้จากโลกจริงๆ ที่เราอยู่นี่แหละ

อดคิดไม่ได้ว่าถ้าโลกเจอมหันตภัยอะไรใหญ่ๆ เข้าจริงๆ เราๆ ท่านๆ จะมีชะตาเป็นเช่นไร

กลัวเหมือนกันว่าจะลงเอยแบบ “ดูไม่จืด”

Untitled07205

หนังเรื่องนี้นับกว่ากล้าที่นำเอาสังคมโลกมาวิพากษ์ ตั้งแต่ชนชั้นผู้นำ พวกร่ำรวยไล่มาจนถึงคนทั่วไป ทั้งเรื่องการเมือง, เรื่องสื่อ, ทุนนิยม, โลกโซเชี่ยล กระทั่งเหล่าตัวเอกก็ยังไม่พ้น ยังโดนจิกกัดพฤติกรรมบางอย่างด้วยเหมือนกัน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเราไม่ได้สมบูรณ์ Perfect แต่ถ้าทุกคนจะเอาข้อนี้มาอ้างเพื่อกระทำสิ่งที่ผิดต่อไปเรื่อยๆ แบบนั้นโลกก็คงวุ่นวายน่าดู

สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาระหว่างการดูหนัง คือการระลึกตรึกตรอง ใคร่ครวญหวนคิด หันมาตรวจสอบตัวเองว่าตัวเรานั้นมีพฤติกรรมอันน่าขำแบบตัวละครในเรื่องหรือเปล่า

ถ้ามีก็คงต้องรีบปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ทำอะไรก็ตามเพื่อลดโอกาสไม่ให้ตัวเราต้องกลายเป็นภาระ/ปัญหาของสังคม – หรือที่หนักกว่านั้นคือ ตัวที่ทำให้สังคมและโลกถึงกาลหายนะ

ดาราในเรื่องถือว่าขนกันมาเพียบตามสไตล์หนังภัยพิบัติบิ๊กๆ และแต่ละคนก็ตีบทตัวเองได้แตกกระจุย DiCaprio ในบท ดร.มินดี้ รายนี้เหมือนจะดูดีมีสติ แต่บทจะนอกลู่นอกทางก็ทำเอาคนข้างกายไม่อยากจะมองหน้า, Lawrence ในบท เคท รายนี้พยายามพร่ำบอกความจริงอย่างเต็มที่ แต่เนื่องด้วยใช้อารมณ์เดินนำมากเกินไป ผลที่ได้เลยมักจะออกแนวหายนะแทบทุกรอบ

Meryl Streep เล่นเป็นประธานาธิบดีจอมเห็นแก่ตัวได้ถึงรสมาก ดูแล้วเชื่อจริงๆ ว่าเธอคือผู้นำที่ไร้สติได้โล่ห์และมีศักยภาพขั้นสูงสุดที่จะนำพาประชาชีไปสู่ความหายนะได้อย่างแน่นอน, Jonah Hill มาเป็นลูกของท่าน ปธน. เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น, Cate Blanchett กับ Tyler Perry แท็กทีมมาเป็นคู่หูพิธีกรข่าวเช้าที่มีความสามารถชงทุกข่าวให้กลายเป็นเรื่องเบาสมอง อีกทั้งยังสามารถจับเอาเฉพาะ “เปลือก” มาต่อยอด กลบแก่นกระพี้ของเรื่องราวไปเสียสิ้น

DON'T LOOK UP

แต่รายที่ผมอยากปรบมือให้ดังๆ คือ Mark Rylance กับบทปีเตอร์ อิชเชอเวลล์ นักธุรกิจมาดดี สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส (เหมือนไปโดนตัวไหนมา) และสามารถวางตัวให้เปล่งรัศมีชวนให้คนบูชา แต่ที่ไหนได้ดีภายในกลับโล่งโถงจนน่าตกใจ อันนี้ยอมรับเลยว่า Rylance สวมวิญญาณบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมและชวนขำอย่างยิ่ง (บทนี้ว่ากันว่าตอนแรกจะให้ Chris Evans มาเล่นครับ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็คงได้อารมณ์ไปอีกแบบ และสุดท้าย Evans ก็มาโผล่ในบทอื่นครับ เป็นใครไปดูกันเอง)

Paul Guilfoyle โผล่น้อย แต่จำได้แม่น กับบทนายพลธีมส์ ที่ทำให้เคทเกิดคำถามไปตลอดทั้งเรื่อง และ Ariana Grande มาเป็นนักร้องสาวสุดดังที่ข่าวชีวิตส่วนตัวของเธอปังเสียยิ่งกว่าเรื่องดาวหางชนโลกซะอีก

David Sirota เป็นคนปั่นบทหนังแรกเริ่ม ก่อนที่ Adam McKay จะมาเกลาอีกหน แล้ว McKay ยังทำหน้าที่กำกับหนังด้วย ซึ่งเขาเองก็เคยกำกับหนังฮาอย่าง Anchorman ทั้ง 2 ภาค, Talladega Nights, Step Brothers และ The Other Guys แต่เรื่องที่ถือว่าเด็ดสุดของเขาคือเรื่อง The Big Short หนังที่ตีแผ่เหตุการณ์ฟองสบู่แตกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา ซึ่งเรื่องนี้ส่งให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปครอง

สำหรับเรื่องนี้ McKay ก็มาพร้อมลีลาถนัดครับ นั่นคือสร้างอารมณ์ขันจากการแสดงเพี้ยนๆ เนียนๆ ของดารา ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นสถานการณ์จริงจัง พร้อมด้วยการเสียดสีจิกกัดสารพัดสิ่ง อะไรแบบนี้ถือเป็นทางของเขาครับ และเรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้น่าจดจำตามเคย

เป็นหนังอีกเรื่องที่คงเอามาดูซ้ำ ในวันที่อยากขำดังๆ ให้กับโลกใบนี้

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7.5/10)