
มีชาวเพจท่านหนึ่งแนะนำให้ดูเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้เลยครับที่แนะนำ เพราะหนังสนุกมาก ถูกใจผมอย่างยิ่งจริงๆ จนอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองชมกันสักครั้งครา
มีชาวเพจท่านหนึ่งแนะนำให้ดูเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้เลยครับที่แนะนำ เพราะหนังสนุกมาก ถูกใจผมอย่างยิ่งจริงๆ จนอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองชมกันสักครั้งครา
เจมี่ มอนโร (Jennie Garth) หญิงสาวผู้สูญเสียสามีไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งสามีของเธอนั้นเป็นคนรักวันคริสต์มาสมากๆ ครับ พอถึงช่วงเทศกาลทีไรเขาจะต้องจัดงานและสร้างความหฤหรรษ์ให้กับคนรอบตัวอยู่เสมอ
แอลลี่ (Jessica Lowndes) คือคุณหมอสาวผู้ทุ่มเททำงานจนไม่ค่อยมีเวลาให้แฟนหนุ่มอย่างจอช (David Reale) ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาถึงทางแยกครับ และเมื่อพวกเขาเลิกกันแอลลี่เองก็รู้สึกสับสันไปไม่เป็น จนเธอได้พบกับเก๊บ (Chad Michael Murray) หนุ่มหล่ออารมณ์ดีที่กำลังจะทำให้เธอได้ทบทวนทางเดินชีวิตของตนเองอีกครั้ง
คอนเนอร์ ชีแนน (Nick Bateman) และลูกสาวนามว่าเดซี่ (Rubi Tupper) ตัดสินใจย้ายไปอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อมาเรียตต้า เขาซื้อบ้านเก่าไว้ที่นั่นครับ แล้วพอจะย้ายไปอยู่เขาก็ตามมัณฑนากรมาช่วยตกแต่งและบูรณะบ้าน ซึ่งพอดีที่เธอคนนั้นคือ วิทนี่ย์ อัลเดอร์ (Jill Wagner) อดีตคู่หมั้นที่เลิกรากันไปเมื่อหลายปีก่อน – คุณๆ คงพอเดาได้น่ะนะครับว่าสุดท้ายแล้วคอนเนอร์กับวิทนี่ย์จะลงเอยกันเช่นไร
ภาคแรกผมอยู่ในข่ายชอบครับ แม้ว่ามันจะไม่ถึงกับยอดเยี่ยมอะไร แต่มันโดนใจและถูกจริต อีกทั้งการแสดงของพระ-นาง (ที่เป็นสามีภรรยากันในชีวิตจริง) ก็เป็นพลังสำคัญทำให้หนังเรื่องนี้หวานแบบพอดีๆ
ระหว่างดูแก๊งม่วนป่วนเสี้ยวลิ้มยี่ ผมรู้สึกเหมือนลมปราณภายในติดขัดครับ ความน่าติดตามของหนังเหมือนจะขาดห้วงเป็นพักๆ บางช่วงก็เฉยมาก บางช่วงก็ทำท่าจะดี บางช่วงก็มีทั้งจุดที่ดีและเฉยดำเนินไปพร้อมๆ กัน
ระหว่างดู The Conjuring: The Devil Made Me Do It ผมถามตัวเองว่าอะไรทำให้ผมชอบ The Conjuring 2 ภาคแรก แล้วคำตอบก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมา
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ายังไง Fortress ของป๋า Bruce Willis คงไม่ได้สนุกอะไรมากมาย แต่ที่ตามมาดูก็เพื่อให้กำลังใจดาราแอคชั่นที่คุ้นเคยกันมาครับ สมัยหนุ่มๆ พี่เขาทำหนังสนุกๆ ให้เราดูไว้พอสมควร ตอนนี้ก็ตามให้กำลังใจอุดหนุนผลงานป๋าเขาสักหน่อย
จำได้ว่าผมเคยยินดีอย่างยิ่งตอนที่มีการประกาศว่า Paranormal Activity จบลงในภาค The Ghost Dimension ประมาณว่าจบลงได้สักที หลังคนทำพยายามต่อเรื่องอยู่หลายภาค
ระหว่างดู Ghostbusters: Afterlife ใจก็คิดครับว่าโจทย์ในการทำหนังภาคต่อประเภทที่ระยะห่างระหว่างภาคก่อนกับภาคนี้ยาวนานเกิน 10 ปีขึ้นไป มันย่อมต่างจากการทำภาคต่อแบบห่างกันแค่ไม่กี่ปี