ถ้าเผอิญผมเดินไปเจอยักษ์จีนนี่ในตะเกียงแล้วขอพรได้ 3 ประการล่ะก็ พรหนึ่งในนั้นผมจะขอให้พี่ Nicolas Cage แกมีโอกาสกลับมาเล่นหนังดีๆ และน่าจดจำแบบสมัยก่อนครับ

สารภาพว่ายากจะทำใจนะ คือหนักกว่าพี่ Steven Seagal อีก เพราะพี่ Cage แกเคยไปได้ไกลมากน่ะครับ ได้ออสการ์ เล่นหนังดีๆ ทั้งดราม่า, แอ็กชัน หรือผจญภัยก็มี แต่ตอนนี้เหมือนงานที่พี่แกหยิบจับจะไม่ใช่หนังที่น่าพอใจเลยสักเรื่อง

เรื่องนี้พี่ Cage รับบท คอลิน ไพรซ์ นักการเมืองที่กำลังเจอวิกฤตในชีวิตทั้งเรื่องงานและเรื่องอื้อฉาวส่วนตัว โดยมีเรื่องเกี่ยวกับวิกฤตการณ์น้ำมันรั่วสู่อ่าวเม็กซิโกเป็นฉากหลัง คือผมก็พยายามคิดล่ะครับว่านี่อาจเป็นหนังดราม่าดีๆ ที่พี่เขาฝากผลงานดี เอาไว้ก็ได้

คือ… จริงๆ พี่ Cage ก็แสดงได้ดีนะครับ แต่บทมันไม่ส่งเลย จริงๆ เรื่องราวในหนังนี่มันทำให้เป็นดราม่าแบบกดดันได้สบายๆ แต่บทกลับไม่หนักแน่นพอ การเดินเรื่องไม่น่าสนใจพอ เหมือนหนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่มีทิศทางชัดเจน ไม่มีประเด็นที่แน่นอน เลยทำให้ความน่าสนใจที่พึงมีค่อยๆ ลดลงตามลำดับ จนตอนหลังๆ นี่แทบไม่เหลือหลัง ทำเอาผมนี่ดูแบบดูให้จบเป็นเรื่องๆ ไป แต่ไม่ได้ดูให้จบเพราะอยากติดตามตัวหนังเลย

ไม่ใช่เรื่องสนุกครับที่ต้องมาบ่นถึงหนังที่นำแสดงโดยดาราที่ยุคหนึ่งมีหนังดีๆ น่าสนใจๆ เป็นผลงานออกมาให้ชมเรื่อยๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พี่ Cage เป็นดาราที่ผมชอบมากคนหนึ่งล่ะครับ พอมาเจอเขาเล่นหนังแล้วตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจเขาน่ะ เพราะผมว่าพี่เขาแสดงดีเหมือนเคยนะ แต่องค์ประกอบแวดล้อมมันธรรมดาจนค่อนไปทางน่าเบื่อ มันเลยกลายเป็นตัวฉุดความดีในตัวพี่ Cage ให้ลดลงไปเรื่อยๆ แทน

แล้วหนังเรื่องนี้ยังมีดาราอย่าง Sarah Paulson (12 Years a Slave), Connie Nielsen (Gladiator) และ Peter Fonda (Easy Rider) มาร่วมจอด้วยนะครับ แต่ทุกคนต้องมาอยู่ท่ามกลางองค์ประกอบดูดพลังแบบเดียวกับที่พี่ Cage โดน นับเป็นอะไรที่น่าเสียดายจริงๆ

รู้ไหมครับว่าผมติดตามข่าวการสร้าง National Treasure 3 อยู่เกือบทุกวัน ไม่ใช่เพียงเพราะอยากดูเท่านั้น แต่ผมอยากให้พี่ Cage แกกลับมาเกิดอีกสักรอบจริงๆ นะเนี่ย ^_^

ดาวครึ่งครับ

(5/10)