
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
ดูจบไปแล้วหนึ่งรอบครับ และคงต้องซ้ำอีกรอบในเวลาไม่นาน ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่า “ผมชอบนะ” หนังจัดว่าสนุกดีแม้จะกินเวลา 4 ชั่วโมงก็เถอะ แต่หากใครที่ชื่นชอบเรื่องราวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ผมว่าหนังน่าจะคุ้มเวลาในการดูสำหรับท่านครับ
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ในหัวผมจะมีคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาอยู่เป็นระยะๆ นั่นคือคำว่า “ผมเข้าใจนะ ผมเข้าใจ”
หน้าหนังเหมือนแนวแอ็กชันทริลเลอร์ แต่ตัวหนังจริงๆ มีส่วนผสมของดราม่าและตลกร้ายใส่ลงมาพอสมควรครับ
ถ้าเผอิญผมเดินไปเจอยักษ์จีนนี่ในตะเกียงแล้วขอพรได้ 3 ประการล่ะก็ พรหนึ่งในนั้นผมจะขอให้พี่ Nicolas Cage แกมีโอกาสกลับมาเล่นหนังดีๆ และน่าจดจำแบบสมัยก่อนครับ
Devil’s Advocate เป็นหนังระทึกขวัญที่ผสมสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้ (สืบสวน+องค์กรมีลับลมคมใน) เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้อย่างพอเหมาะมากๆ เรื่องหนึ่ง
นาทีแรกที่รู้ว่าพี่ Robin Wliiams จะผันตัวเองจากดาราตลกกลายเป็นดาราแนวคุณภาพที่นอกจากจะไม่ใช่พระเอกแล้วยังเป็นตัวร้ายอีกต่างหาก แว่บแรกก็ดีใจนะครับที่จะได้เห็นพี่แกในบทบาทใหม่ แต่อีกใจก็กลัวครับ กลัวแทนพี่ท่านน่ะแหละว่าจะรอดสันดรได้หรือไม่ เพราะตลาดของหนังแนวระทึกผสมโรคจิตแบบนี้มันย่อมไม่กว้างเท่าตลาดหนังตลกที่พี่แกเคยครองอยู่ตั้งหลายสิบปี
ผู้กำกับ John McTiernan เป็นอีกคนที่มีฝีมือนะครับ เพราะผลงานของเขาส่วนมากจะน่าสนใจทั้งสิ้น ตั้งแต่ Die Hard ภาคแรกและภาคสาม, The Hunt for Red October, The Thomas Crown Affair, Predator, The 13th Warrior และ Medicine Man (ละเรื่อง Rollerball ไว้ในฐานที่เข้าใจครับ อันนั้นมือร่วงแบบผิดคาดจริงๆ)
อีกหนึ่งหนังที่ไม่ใคร่จะได้รับคำชมไม่ว่าจะทางใดๆ จากใครก็ตามน่ะครับ
เป็นอีกหนึ่งในโปรเจคท์ที่ผมงงเหมือนกันตอนทราบชื่อคนกำกับ เพราะนี่มันหนังไซไฟ ผจญภัยในอวกาศ แต่ชื่อผู้กำกับดันเป็น Brian De Palma
สารภาพว่ารอเวลาแบบนี้มานานมากๆ ครับ เวลาที่จะได้ถวายสามดาวให้กับหนังฮีโร่จากฟาก DC และพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าหนังฮีโร่่ DC มีดีควรค่าแก่การรับชม