
Hollywood Homicide นี่เคยดูมาแล้ว 2 รอบครับ รอบแรกตอนออกแผ่นใหม่ๆ ดูแล้วก็ออกแนวเฉยครับ จากนั้นก็ได้ดูอีกรอบเมื่อไม่นานมานี้ เอามาเปิดดูเล่นยามว่างเผื่อว่าจะชอบมากขึ้น แต่ผลก็คือยังเฉยอยู่เหมือนเดิม
Hollywood Homicide นี่เคยดูมาแล้ว 2 รอบครับ รอบแรกตอนออกแผ่นใหม่ๆ ดูแล้วก็ออกแนวเฉยครับ จากนั้นก็ได้ดูอีกรอบเมื่อไม่นานมานี้ เอามาเปิดดูเล่นยามว่างเผื่อว่าจะชอบมากขึ้น แต่ผลก็คือยังเฉยอยู่เหมือนเดิม
First Kill อาจไม่ถึงขั้นเป็นหนังดีอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้แย่ครับ ถือว่ากลางๆ ค่อนไปทางลบสักหน่อย หนังมาพร้อมดาราที่โอเค เนื้อเรื่องไม่เลว เพียงแต่การเล่าเรื่องยังไม่ชวนติดตามเท่านั้นแหละ
พอล (Jason Patric) อดีตมาเฟียระดับตำนานเจ้าของฉายา “เดอะ พริ้นซ์” ได้ล้างมือจากวงการ แล้วหันไปใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองห่างไกล แต่เมื่อเขารู้ว่าเบธ (Gia Mantegna) ลูกสาวของเขาหายตัวไป เขาเลยต้องออกโรงตามหาลูก อันนำเขาไปสู่การเผชิญหน้ากับสารพัดอันตรายและรอยแค้นจากอดีตที่รอคอยเขาอยู่
พันเอกโรเบิร์ต ไซค์ส (Steven Seagal) อดีตผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยรบพิเศษได้ผันตัวเองเป็นศาลเตี้ยเพื่อกวาดล้างเหล่าร้ายในเมือง แต่เมื่อวิธีของเขาเริ่มล้ำเส้นทำให้เพื่อนเก่าอย่างวิลเลี่ยม พอร์เตอร์ (Craig Sheffer) ต้องโดดลงมาขวางทาง และในที่สุดการเผชิญหน้าระหว่างพวกเขาก็เป็นเรื่องที่มิอาจเลี่ยง
แล้วเราก็มาถึงภาคที่ 10 ของหนังชุดนี้ครับ กับ Hellraiser: Judgment ซึ่งเหตุผลในการสร้างภาคนี้ก็เหมือนกับภาคก่อน คือต้องสร้างเพื่อต่อเวลาไม่ให้ลิขสิทธิ์ของหนังชุดนี้ที่ค่าย Dimension ซื้อมาต้องขาดลง
ถ้าดูจากผลลัพธ์แล้ว Morbius ถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เดินตามสูตรจนออกมาธรรมดามากๆ ครับ ชนิดที่หนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Superman ภาคแรกที่เก่ากว่า 40 ปีมาแล้วยังดูมีอะไรมากกว่า
Holmes & Watson ครับ กับเชอร์ล็อค โฮล์มส์ เวอร์ชั่นต๊องเหลือหลาย เรื่องนี้ก็ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาเยอะเหมือนกันว่าหนังปัญญาอ่อนมากมาย โดนสับเละสับแหลก ยิ่งตอนฉายรอบทดลองนี่ได้ข่าวว่าการตอบรับอยู่ในระดับหายนะ ทำเอาสตูดิโอผู้สร้างอย่าง Sony เจรจาจะขายต่อให้ Netflix แต่กลายเป็นว่าขนาด Netflix ยังไม่เอาน่ะครับ
ชายคนหนึ่ง (Tony Todd) อุ้มสาวน้อย (Sage Arrindelle) หนีไปซ่อนตัวจากอะไรบางอย่างในอาคารร้าง แต่ด้วยความกลัวทำให้สาวน้อยร้องขอให้ชายคนนั้นเล่านิทานให้เธอฟัง ทว่าชายคนนั้นปฏิเสธ สาวน้อยเลยขอเป็นฝ่ายเล่านิทานแทน…
The Unholy เล่าถึงเรื่องของอลิซ (Cricket Brown) สาวน้อยที่บกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่แล้ววันหนึ่งปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อเธอสามารถพูดได้และยังมีพลังสามารถเยียวยารักษาผู้คนที่เจ็บไข้ได้อีกด้วย ซึ่งเธอเชื่อว่าเธอได้รับพรจากพระแม่มารีย์ และมีหน้าที่ช่วยเหลือคนให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทน
จะว่าไปแล้ว Interceptor ก็คือหนังที่เอาสูตรสำเร็จสไตล์ Die Hard มาปรุงใหม่อีกรอบครับ (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว) นั่นคือมีผู้ก่อการร้ายอะไรสักอย่าง บุกยึดอะไรสักอย่าง เพื่อทำอะไรสักอย่าง (ที่ไม่เป็นผลดีต่อผู้คน) แล้วก็จะต้องมีตัวเอกเก่งๆ สักคนหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อต่อสู้ขัดขวางไม่ให้พวกมันทำได้ดั่งใจ