หนังจับกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงนั้นครับ คือการก้าวเข้าสู่ปี 2000 แล้วก็ผูกเรื่องเข้ากับตำนาน “ซาตานต้านพระคริสต์” โดยกำหนดเรื่องราวว่าคืนสุดท้ายแห่งปี 1999 นั้น ซาตานจะขึ้นมาจากขุมนรกและกระทำการสมสู่กับมนุษย์เพศหญิงที่ถูกเลือกไว้ แล้วหากมันทำสำเร็จก็จะเท่ากับเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเรืองอำนาจของซาตาน

ก็เป็นหนังสไตล์ The Omen ที่มีพี่บึ้ก Arnold Schwarzenegger มารับหน้าที่ไล่บี้ซาตานครับ แม้ตัวหนังจะไม่ได้รับคำชมอะไรมากมาย แต่ผมก็ยังรู้สึกชอบครับ จุดชอบอันแรกคือโทนหนังมันดูหม่นมืด ลึกลับ ผสมอารมณ์สยองสไตล์หนังว่าด้วยซาตาน ถือว่าทำโทนตรงนี้ได้เข้าท่าครับ

จุดชอบอันที่สองคือการเดินเรื่องที่ลำดับเล่าเรื่องได้น่าสนใจ ดูแล้วค่อนข้างลื่นไหล ในขณะที่บทหนังนั้น ให้ว่าตามจริงก็คืออาจไม่ได้สดใหม่อะไร จริงๆ มันเดินตามรอยหนังแนวซาตานเดิมๆ ด้วยน่ะครับ แต่แม้จะเป็นอะไรเดิมๆ ทว่าถ้ามันมีโครงที่แข็งแรงพอ อย่างน้อยหนังก็จะไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ ยังพอดูเอาสนุกเอาเพลินได้ เพียงแต่อาจไม่ถึงขั้นสนุกมากมาย อาจมีช่วงอืดๆ แทรกลงไปเป็นระยะ แต่หากคิดโดยรวมๆ หนังก็ยังพอตอบสนองคอแอ็คชันกึ่งสยองลึกลับได้ไม่เลวครับ (แต่เราก็ต้องไม่คาดหวังอะไรก่อนดูด้วยนะครับ )

จุดชอบอันที่สาม อันนี้ชอบมาก คือการแสดงของ Gabriel Byrne ที่สวมวิญญาณซาตานแบบได้ใจสุดๆ สีหน้า ท่าทาง แววตาดูหยิ่งผยอง จองหองอวดดี และแฝงความเหี้ยมไว้ตลอด ดูมีพลังน่ะครับ เชื่อจริงๆ ว่าพี่ท่านคือซาตานจุติมาบนโลก

นั่นคือที่ชอบนะครับ ส่วนอื่นๆ ของหนังก็อยู่ในระดับโอเค ไม่ถึงกับน่าปลื้มแต่ก็ไม่ขี้เหร่เกินไป อย่างพี่บึ้ก Arnold ของผม จริงๆ เขาก็ไปได้ไม่เลวกับบทนะครับ อย่างตอนแสดงอารมณ์เมื่อซาตานบุกไป “ซ้ำแผลเก่า” ถึงบ้าน ช่วงนั้นก็ทำออกมาได้หดหู่พอสมควร และพี่ Arnold แกก็ทำท่าเศร้าได้ใจไปพอตัว

ดารารายอื่นๆ ก็ถือว่าพอเหมาะครับ ไม่ว่าจะ Robin Tunney ในบทสาวที่ถูกซาตานเลือก, Kevin Pollak ในบทบ็อบบี้ คู่หูของพระเอก, CCH Pounder ในบทอดีตหัวหน้าของพระเอก และ Rod Steiger ในบทคุณพ่อโคแว็ก พวกเขาเหล่านี้ช่วยทำให้หนังดูลื่นขึ้น ช่วงไหนจังหวะดูน่าเบื่อๆ แต่ถ้าได้นักแสดงเหล่านี้โผล่ขึ้นจอก็จะช่วยหนังให้พ้นไปได้ (อาจไม่ทุกครั้ง แต่ก็ถือว่าช่วยได้เป็นส่วนใหญ่ )

เป็นงานกำกับที่สนุกตามมาตรฐานของ Peter Hyams (2010, Timecop และ Outland) คือมันอาจไม่ได้เด็ดเป็นพิเศษ แต่ก็ดูสนุกได้ มีความลุ้นและตื่นเต้นแจกผู้ชมอยู่เรื่อยๆ (แต่อาจจะเสียตรงที่ยัง “เรื่อยๆ” ไม่เยอะพอ)

ในแง่รายได้ก็พอไหวนะครับ ลงทุน $100 ล้าน ได้คืนมา $211 ล้าน อย่างน้อยก็พอได้ทุนคืน แล้วค่อยไปเก็บกำไรจากตลาดวีดีโอ – แผ่น – ลงเคเบิ้ล และลงสตรีมเอา

ดูได้ไม่ผิดหวัง สำหรับหนังปนสยองของพี่บึ้ก Arnold เรื่องนี้

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)