Action

Spy Kids (2001) พยัคฆ์จิ๋วไฮเทค ผ่าโลก

B00003CXWJ.01.LZZZZZZZ

จำได้ว่าสมัยนั้นพี่ Robert Rodriguez ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่ถนัดหนังแนวรุนแรงครับ ไม่ว่าจะ El Mariachi, Desperado หรือ From Dusk Till Dawn ทำให้ตอนที่พี่ท่านประกาศว่าจะมาทำเรื่องนี้ผมก็ประหลาดใจอยู่ล่ะครับ จู่ๆ มาทำหนังเด็กเฉยเลย (เรื่องนี้ถือเป็นหนังเรต PG เรื่องแรกในทำเนียบผลงานของเขาครับ)

พอดูปั๊บก็แปลกใจยิ่งขึ้น เพราะเขาทำได้ไม่เลวเลยครับ

เรื่องนี้จะว่าไปมันก็ออกจะเป็นภาคขยายแบบกลายๆ ของเรื่องสั้นในหนัง Four Rooms ที่ Rodriguez เคยทำเอาไว้ครับ ในเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่มีลูกๆ จอมซนสุดๆ สองคน (และพี่ Antonio Banderas ก็แสดงนำเช่นกัน) และจากเรื่องสั้นนั้นเอง Rodriguez จึงตัดสินใจที่จะเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาขยายต่อยอดเป็นหนังSpy Kids ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่

เนื้อเรื่องเบื้องต้นคือ เกรกอริโอ้ คอร์เตซ (Antonio Banderas) และ อิงกริด (Carla Gugino) คือสายลับมือดีที่ตกหลุมรักและแต่งงานกัน พวกเขามีลูกสองคน คือ คาร์เมน (Alexa Vega) และ จูนิ (Daryl Sabara) พวกเด็กๆ ไม่รู้หรอกครับว่าพ่อแม่เป็นสายลับ จนกระทั่งงานชิ้นล่าสุดที่พวกเขาทำดันพลาดท่าและโดนจับไปโดยเฟแกน ฟลูบ (Alan Cumming) พิธีกรรายการเด็กที่มีแผนครองโลกอยู่ ทำให้ลูกๆ ทั้งสอง ต้องออกโรงช่วยพ่อแม่ของพวกเขา แล้วการผจญภัยก็เริ่มต้น

จากที่ได้ยินมา นี่คือหนังที่เป็นความฝันของ Rodriguez ครับ แกอยากทำหนังผจญภัยไตรภาคสำหรับเด็กมานานแล้ว โปรดสังเกตครับว่าหนังปราศจากความรุนแรงแล้วยังแฝงแง่คิดเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวอยู่เพียบ (ชื่อตัวละครอย่างเกรกอริโอ้, คาร์เมน และจูนิเนี่ยก็เอามาจากสมาชิกในครอบครัว Rodriguez นั่นแหละ) นอกจากทำหนังออกมาให้เด็กๆ ดูได้แล้ว ยังเป็นการสานฝันตามจินตนาการในวัยเยาว์ของพี่เขาด้วย อย่างเจ้าทัมทัม ตัวนิ้วมือเดินได้นั่น ก็คือภาพวาดที่พี่แกเคยวาดไว้ตอนเด็กๆ น่ะครับ เรียกว่าปลดปล่อยความเป็นเด็กกันแบบเต็มที่ไปเลย

ตัวหนังจัดว่าดูเพลินดีครับ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูได้ อะไรๆ ในหนังมันพร้อมจะฮาได้ตลอดครับ ไม่ว่าจะการจิกกัดเสียดสีหนังสายลับทั้งหลาย หรือการกัดกันของ 2 พี่น้องก็มีอะไรให้ฮาแทรกมาเป็นระยะๆ ตามด้วยอาวุธอุปกรณ์ไฮเทคสารพัดแบบหนังเจมส์ บอนด์ (ยุค Roger Moore) แม้ Effect อาจจะไม่ถึงกับเนียนมากนักก็ตาม แต่ก็พอจะมองผ่านๆ ได้น่ะครับ โดยหนังปกปิดจุดโหว่จุดโหวงอีกทั้งความไม่เนียนในเรื่องด้วยการเดินเรื่องที่ฉับไว มุกตลกที่แทรกมาเรื่อยๆ ไหนจะดาราหน้าคุ้นสารพัด มันเลยเพลินได้ตลอดไปจนจบน่ะครับ

อีกอย่างที่ต้องยอมรับคือพี่ Robert แกเจ๋งจริง ทำหน้าที่เกือบทุกอย่างในหนัง ตั้งแต่กำกับ เขียนบท อำนวยการสร้าง ตัดต่อ ช่วยทำดนตรีอีก ช่วยมิกซ์เสียงด้วย คุม Effect อีก คุมกล้องอีก – นี่ถ้าพี่แกทำได้คงลงไปเล่นหนังเองแล้วล่ะครับ

ด้านดารานั้นทุกคนเล่นได้ดีครับ Banderas กับ Gugino ก็เข้าคู่กันได้ดีอยู่แล้ว ดูเหมาะเป็นสายลับมือพระกาฬและที่สำคัญคือดูเหมาะสำหรับบทพ่อคนแม่คน ส่วนบทสมทบที่เหลืออย่าง Cumming, Tony Shaloub, Teri Hatcher, Robert Patrick ก็ร้ายแบบพอดีครับ จะว่ากึ่งการ์ตูนก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หลุดโลกจนเกินไป

และที่ขาดไม่ได้คือเหล่านักแสดงสมทบประจำหนังของ Rodriguez ครับ Cheech Marin มารับบทเฟลิกซ์ กัมม์ คุณลุงสายลับที่โดนเชิญมาดูแลพวกเด็กๆ ตอนพ่อแม่ไม่อยู่ และ Danny Trejo พี่หน้าโหดมาเล่นเป็นมาแชตตี้ คอร์เตซ พี่ชายของเกรกอริโอ้ ซึ่งพี่แกก็เล่นได้ฮาดี ขโมยซีนได้เช่นเคย

แต่ที่ผมว่าเจ๋งมากๆ คือดาราเด็กเจ้าของบทสายลับจิ๋วครับ Vega กับ Sabara แม้จะเป็นหน้าใหม่ แต่ก็แสดงได้อย่างลื่นไหล ดูเข้าคู่เหมาะจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ หรือตอนกัดกันก็ฮามากๆ แล้วทั้งคู่ยังดูน่าเชื่อถือด้วยว่าสามารถเป็นสายลับจิ๋วได้ โดยส่วนตัวผมว่าทีมงานคัดมาดีมากๆ ครับ เลือกคนได้ถูกต้องจนทำให้หนังประสบความสำเร็จ โดยตัวหนังลงทุนราวๆ $35 ล้านครับ ก่อนจะทำเงินทั่วโลกไปกว่า $147 ล้าน ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามจนมีภาคต่อตามออกมาอีก

เกร็ดเล็กๆ ที่นำมาฝากคือสารพัดชื่อของดาราที่เคยมาแคสบทต่างๆ ในเรื่องครับเริ่มจากบทอิงกริดนั้นตอนแรกจะได้ Kelly Preston มาแสดงครับ แต่เนื่องจากเธอเพิ่งคลอดเลยไม่สะดวกมาแล้วก็มีการแคส Lacey Chabert, Wendy Crewson, Catherine O’Hara, Lisa Ann Walter, Renée Zellweger, Kristen Davis, Beverly D’Angelo, Elizabeth Mitchell, Rachel McAdams และ Mya Harrison แต่สุดท้ายแล้วบทก็ตกเป็นของ Gugino ครับ

ส่วนบทเกรกอริโอ้คนที่เคยถูกเล็งไว้ให้มาเล่นก็มี John Travolta, Kevin Connolly และ Malcolm McDowell ครับ ตามด้วยบทฟลูบ คนที่เคยมาเข้าชื่อว่าจะเล่นก็มี Joaquin Phoenix, Martin Short, John Hannah, Oden Fehr และ Brendan Fraser ครับ

นอกจากนี้ Brie Larson และ Elizabeth Olsen ยังเคยมาแคสบทคาร์เมนด้วยครับ

สรุปว่าสนุกครับ หนังจัดว่าน่าติดตาม เป็นความบันเทิงไร้พิษภัย เด็กดูสนุกได้อยู่แล้วล่ะ ส่วนผู้ใหญ่ผมว่าถ้าไม่คิดมากก็น่าจะเพลินนะครับ เพราะหลายมุกนี่ก็ใส่ลงมาเพื่อเรียกเสียงฮาจากผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ดนตรีก็มันส์ครับ เสริมอารมณ์หนังสายลับผสมหนังครอบครัวและเหยาะด้วยกลิ่นเม็กซิกัน ซึ่งคนร่วมทำดนตรีในเรื่องก็มีหลายคนครับ ไม่ว่าจะ John Debney, Danny Elfman, Harry Gregson-Williams, Los Lobos และ Rodriguez เองครับ โดยเพลงธีมของเรื่องแต่งโดยพี่ Danny Elfman ครับ แล้วมันก็เร้าใจได้ที่ทีเดียว แล้วหนังยังแทรกสาระเรื่องความรักในครอบครัวได้แบบพอเหมาะกำลังดี หนังเลยออกจะครบเครื่องครับ แม้ตอนไคลแม็กซ์อาจจะง่ายไปหน่อยก็ตาม แต่โดยรวมถือว่าหนังลงตัวสำหรับสูตรหนังครอบครัวผจญภัยครับ

สองดาวเกือบครึ่งครับ

Star21

(6.5/10)

19787_29627e71