
ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม
ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม
The Adventures of Sharkboy and Lavagirl เรื่องนี้เห็นมานานมากแต่ก็ไม่ได้ดูสักทีครับ อาจเพราะความสนใจมันไม่มากหรือไม่ก็อิ่มตัวแนวนี้ไปแล้วหลังจากดู Spy Kids มาหลายภาค แต่ที่เอามาดูนี่ก็เพราะวันก่อนได้ดู We Can Be Heroes ครับ แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเรื่องนั้นเป็นภาคต่อของเรื่องนี้ (เพราะมีตัวละครชาร์คบอยกับลาวาเกิร์ลไปโผล่ด้วย) ก็เลยย้อนหามาดู
ผมสงสัยเสมอว่าทำไม Sin City: A Dame to Kill For ถึงทำรายได้ไม่สวยเลย (ทำไป $39 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนนั้นปาเข้าไป $65 ล้าน)
หลังจากผมร่าย Death Proof ของพี่ Quentin Tarantino ไปเรียบร้อยก็ถึงคราวหนังโหดซอมบี้โคโยตี้แข้งปืนกลของพี่น้องร่วมสาบานพี่ Quentin อย่างนาย Robert Rodriguez
นี่ก็เป็นหนังที่ตอนเข้าโรงนี่ผมอยากดูมากเลยครับ เพราะหน้าหนังมันออกแนวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกผสมกับแนววัยรุ่น ซึ่งถ้าทำออกมาดีๆ นี่สนุกสนานแน่นอน อย่างน้อยก็ดูเพลินล่ะครับ แล้วยังได้ Robert Rodriguez แห่ง El Mariachi, Desperado และ From Dusk Till Dawn มากำกับด้วย ก็น่าสนใจล่ะครับว่าหนังจะออกมาอีท่าไหน
มาครับ มาต่อกัน ผมยังไม่เรื่องกับผู้ชายที่ชื่อ Robert Rodriguez นะครับผม หลังจากแนะนำหนังไตรภาคภายใต้ฝีมือการกำกับของเขาไปสองชุดแล้ว (ชุด El mariachi และ Spy Kids) ก็ขอต่อให้จบครับ กับอีกหนึ่งงานไตรภาคที่มี Rodriguez เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งงานนี้เขาจับมือร่วมงานกับ เพื่อนซี้พี่น้องผู้รู้ใจอย่าง Quentin Tarantino กับงานหนังแอ๊คชั่นเลือกสาดโหดเต็มพิกัด แต่ก็ฮาแทรกเป็นพักๆ
ตอนที่ 3 ของหนังชุดนี้ จบลงด้วยการทำเป็น 3 มิติ… อืมม์ …ก็ตอบสนองตัณหาพี่ Robert Rodriguez กันเข้าไปล่ะครับ
1 ปีต่อมา เขาก็กลับมาอีกครั้งครับ ผู้กำกับ Robert Rodriguez (El Mariachi, Desperado, Spy Kids) ก็พาเอา 2 พี่น้องคาร์เมน (Alexa Vega) กับจูนิ (Alexa Vega) กลับมารับหน้าที่สายลับจิ๋วอีกหน ในภาคนี้พวกเขาก็ได้เป็นสายลับจิ๋วเต็มตัวแล้วล่ะครับ
พี่ Robert Rodriguez นี่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่ถนัดหนังแนวรุนแรงคนหนึ่งนะครับ ตอนที่พี่ท่านประกาศจะมาทำเรื่องนี้ผมก็ประหลาดใจล่ะครับ ก็เห็นเขาทำหนังกี่ทีนี่จะต้องมีศพเกลื่อนเลือดกลาดทุกรอบ แล้วนี่จะมาทำหนังเด็กมันก็เลยอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
ตอนสุดท้ายปิดตำนานของ El Mariachi ครับ เอล มาริอาชี่ (Antonio Banderas) นักฆ่ากีตาร์ปินกลับมาอีกครั้ง ในภารกิจปกป้องแผ่นดินเม็กซิโกจากการรุกรานของกบฏจอมชั่วอย่าง บาริลโล (Willem Dafoe) และ มาร์เกซ (Gerardo Vigil) ซึ่งก็มีการยิงกระหน่ำ ระเบิดเมืองอุตลุดสไตล์พี่ Robert Rodriguez แกล่ะครับ