ป้ายกำกับ: 8/10

Chronos (1985), โครโนส อัศจรรย์แห่งพิภพ

ผมเคยแนะนำหนังสารคดีชั้นยอดเรื่อง Koyaanisqatsi ไปเมื่อนานมาแล้วนะครับ นั่นถือเป็นหนังที่บุกเบิกสารคดีแนวถ่ายทอดด้วยภาพอันทรงพลังของสิ่งต่างๆ บนโลก โดยไม่มีบทบรรยายแม้แต่คำเดียว มีเพียงดนตรีที่ทรงพลังไม่แพ้กันดำเนินคลอไปจนจบ

Ex Machina (2015) พิศวาสจักรกลอันตราย

แม้หน้าหนัง Ex Machina จะว่าด้วยเรื่องของหุ่นยนต์ และพล็อตว่าด้วยคนมาเฝ้าสังเกตทดสอบพฤติกรรมของหุ่นยนต์ แต่เอาเข้าจริงแกนหลักของหนัง คือการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของมนุษย์

Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You (2016) พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน

เมื่อคุณคบหาดูใจ เริ่มต้นที่จะรักใครสักคน คุณอาจเจอเรื่องยากลำบากระหว่างทาง หลายครั้งคุณอาจต้องทน และคิดว่าทำไมเราถึงต้องทนอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายจะเข้าใจและรับรู้ไหมว่าเราต้องทนอะไรบ้าง? บางทีเราอาจจะไม่รู้เลยว่าทั้งเราและอีกฝ่ายต่างก็ต้องเจอกับห้วงเวลาที่ยากลำบากไม่น้อยไปกว่ากัน

Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi (2017) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 8 ปัจฉิมบทแห่งเจได

หาก Star Wars ภาค The Force Awakens คืองานบูชาครูที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ พร้อมด้วยกลิ่นอายเดิมๆ แล้วล่ะก็ The Last Jedi นี่ก็คงถือเป็นการเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ ตรงกับที่ลุคบอกไว้ในตัวอย่างว่า “มันจะไม่ได้จบลง เช่่นที่เจ้าคาดคิด”

Thor: Ragnarok (2017) ศึกอวสานเทพเจ้า

ภาคนี้สนุกครับ เป็นภาคที่จัดเต็มสุดในบรรดา Thor ทั้ง 3 ภาคแล้วล่ะ ครบทั้งแอ็กชัน แฟนตาซี อารมณ์ขัน ดูเพลินมากทีเดียว ดังนั้นหากอยากดูก็ตีตั๋วไปดูได้เลยครับผม ไม่ต้องอ่านอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

Manchester by the Sea (2016) แค่ใครสักคน

ถือเป็นหนังว่าด้วย “คนชีวิตชำรุด” ที่เรียบง่าย แต่ได้ใจอย่างยิ่ง มันอิ่มแบบพอดี รสชาติไม่จัดจ้าน ปราศจากความหวือหวา แต่ดูแล้วมันอิน มันสัมผัสได้ถึงห้วงอารมณ์ช้ำๆ จนบางขณะเราก็รู้สึกช้ำตามตัวละครไปด้วย

Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง

ครอบครัวคือพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับชีวิตคนครับ เพราะถ้ามีครอบครัวที่ดี ที่คอยประคับประคอง คอยรับฟ้งสิ่งที่อยู่ในใจของเรา แนะนำแนวทางในการดำเนินชีวิต รวมถึงให้กำลังใจเราในวันที่เจอกับปัญหาแล้วล่ะก็ จะเท่ากับเรามีแต้มต่อสำคัญ ในการตั้งหลักชีวิตได้

Wind River (2017) ล่าเดือด เลือดเย็น

ดูหนังเรื่องนี้แล้วเกิดอารมณ์หดหู่ทับซ้อนกันหลายชั้น ชั้นแรกก็คือรอบฉายน้อยมาก จนเป็นไปได้ว่านาทีที่ผมเขียนเสร็จนี่หนังน่าจะหายไปจากโรง หรือไม่ก็เกือบๆ หายไปเต็มที (การได้ดูขณะที่ยังฉายโรงนี่ ถือว่ามีบุญในระดับหนึ่งทีเดียวครับ)