โดยส่วนตัวผมว่าบทหนังเรื่องนี้เข้าท่านะครับ
โดยส่วนตัวผมว่าบทหนังเรื่องนี้เข้าท่านะครับ
“ถ้าเปรียบคนเป็นเรือ ความเชื่อก็คงเป็นน้ำ
อันว่าน้ำนั้น ลอยเรือได้ ก็จมเรือได้เช่นกัน”
นั่นคือสิ่งที่ผมคิด หลังดู Noah ครับ
อีกชื่อหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือ Fever Pitch นะครับ เป็นชื่อที่ใช้ตอนฉายที่อเมริกา บอกไว้ให้รู้กัน จะได้ไม่แปลกใจว่าทำไมชื่อหนังบนปก DVD ถึงไม่ใช่ The Perfect Catch
พล็อตทำให้นึกถึงเพื่อนสนิทขึ้นมาเลยครับ หนังเล่าถึง คริส แบรนเดอร์ (Ryan Reynolds) ไอ้หนุ่มอ้วนต๊ต๊ะที่มีเพื่อนสนิทชื่อ เจมี่ พาลามิโน่ (Amy Smart) สาวน้อยสุดสวยที่ทำให้คริสใจเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เจอ แล้วในคืนส่งท้ายก่อนจบการศึกษา เขาคิดจะสารภาพรักกับเธอ … แต่ผลลงเอยกลับกลายเป็นความอายอย่างมหาศาล โธ่ น่าสงสารจริงๆ
โดยส่วนตัวผมว่าภาค 4 นี่เริ่มออกแนว “หน้าด้านนิดๆ” แล้วล่ะครับ ประมาณว่าจะสานต่อเรื่องทำตอนต่อเลยพยายามเขียนบทสร้างปมให้มันเป็นตอนต่อให้ได้ โดยที่ความเนียนอาจไม่มากเท่า 3 ภาคที่ผ่านมา
หนังตลกร้ายผสมโรแมนติกแบบแสบๆ ในสไตล์ของ 2 พี่น้อง Joel และ Ethan Coen ซึ่งผมอยากดูตั้งแต่ตอนดูตัวอย่างน่ะครับ มันฮาจี๊ดๆ และที่สำคัญคือได้ดาราเด็ดๆ อย่าง George Clooney และ Catherine Zeta-Jones มาเจอกันซะด้วย
หนังแฟนตาซีดูสนุกว่าด้วยแม่มดวายร้าย 3 พี่น้อง (Bette Midler, Sarah Jessica Parker และ Kathy Najimy) ที่ทำร้ายเด็กๆ ไปไม่รู้เท่าไร แต่แล้วพวกนางก็โดนสยบไปในที่สุด
ถือเป็นหนังที่ดูง่ายและเขียนง่ายอีกเรื่องหนึ่งครับ
หนังสยองขวัญแนวรวมเรื่องสั้นแบบที่ผมชอบครับ เป็นเรื่องของนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่ได้รับเชิญจากศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ด ดีเรค (Ramy Zada) ให้มาเรียนวิชาพิเศษที่บ้านของเขา และวิชาที่ว่านี้ก็คือ “จิตวิทยาแห่งความกลัว” (The Psychology of Fear) โดยเอ็ดเวิร์ดจะเล่าเรื่องสยอง 3 เรื่องให้เหล่านักศึกษาฟังเพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ความกลัวที่เกิดขึ้นในใจตน
อันนี้เป็นฉบับหนังนะครับ หลังจากฉบับการ์ตูนเคยประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลมาแล้วในปี 1961 ถ้านับจากรายได้ค่าตั๋ว ณ ตอนนั้นก็ทำเงินไป $144 ล้าน แต่หากคิดตามอัตราเงินเฟ้อและค่าตั๋วปัจจุบันล่ะก็ จะเท่ากับฉบับการ์ตูนนั้นทำเงินไปถึง $834 ล้านทีเดียวครับ