เมื่อพิจารณาแบบรวมๆ แล้วก็รู้สึกครับว่า Wish Upon คือหนังสยองที่ยำเอาจุดเด่นจากหนังสยองรุ่นก่อนๆ มาใช้งาน ไม่ว่าจะ The Omen, Wishmaster และ Final Destination เป็นต้น
เมื่อพิจารณาแบบรวมๆ แล้วก็รู้สึกครับว่า Wish Upon คือหนังสยองที่ยำเอาจุดเด่นจากหนังสยองรุ่นก่อนๆ มาใช้งาน ไม่ว่าจะ The Omen, Wishmaster และ Final Destination เป็นต้น
ยอมรับว่าดูหนังเรื่องนี้เพราะเห็นตัวอย่างแล้วภาพมันสวยดีครับ งานเทคนิค CG และฉากนี่ดูอลังการ มีความสวยงามเตะตาดี ในขณะที่เรื่องบทนี่ก็ทำใจไว้เหมือนทุกทีครับว่าขอให้ออกมาดูได้เรื่อยๆ ไม่เบาเกินจนไร้ทิศทางก็ดีใจแล้วล่ะ
หลังดูภาคนี้จบแล้วผมตระหนักได้อย่างหนึ่งครับว่า หนังชุด Saw 7 ภาคแรกนั้นถือเป็นหนังที่มีศิลปะในการนำเสนอ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังชุดนี้มีความแตกต่างจากหนังไล่เชือดและหนังสยองเรื่องอื่นๆ ที่ส่วนมากพอทำออกมาได้ไม่กี่ภาคก็ต้องจบตัวเองลง หรือไม่ก็ทู่ซี้ทำแบบย่ำอยู่กับที่จนกว่ารายได้จะติดตัวแดงกันไป
เคยจีบใครไหมครับ ^_^ หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมนึกถึงวันเหล่านั้นนะ วันที่เราพยายามจะเอาชนะใจใครสักคน มันคือช่วงเวลาอันแสนหวานที่บางครั้งก็แอบซ่อนความขมไว้ แล้วยังมีความลุ้นอีกด้วย เพราะไม่รู้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการชนะใจเขาหรือเธอไหม
อีกหนึ่งหนังที่จริงๆ ผมว่าน่าสนใจนะครับ เนื้อเรื่องมันเหมาะแก่การทำให้เป็นหนัง Feel Good อย่างยิ่ง ส่วนดาราก็ถือว่ารวมคนฝีมือดีเอาไว้เยอะพอตัว ไม่ว่าจะ Michael Shannon, Judy Greer, Ron Perlman, Thomas Lennon และ Ian McShane
ดูตัวอย่างแล้วก็เตรียมใจเข้าไปเสพความเว่อร์วังแบบเต็มขั้นครับ ยิ่งทุนสร้างตั้ง $250 ล้าน มันก็ต้องจัดเต็มแอ็กชันและฉากทำลายล้างแบบระเบิดระเบ้อแน่นอน (พูดถึงรายได้ ตอนนี้ทั่วโลกโกยไปแล้ว $531 ล้าน ถึงจุดคุ้มทุนแล้วครับ ไม่เกินสัปดาห์นี้ก็จะได้งบโฆษณาคืน และเข้าสู่โซนกำไรแน่นอน)
Shantel VanSanten เป็นนักแสดงสาวที่เตะตาผมมากพอสมควร ตอนที่เธอแสดงเป็นแฟนของแบร์รี่ อัลเลน ในซีรี่ส์ The Flash ช่วงปี 2 น่ะครับ (โดยส่วนตัวผมเชียร์เธอให้คู่กับแบร์รี่มากกว่าไอริสอีกนะ 555)
ความสุขอย่างหนึ่งของการดูหนัง Hallmark สำหรับผมก็คือ เราจะได้พบเจอกับนางเอกที่เคยเตะตาเราจากหนังเรื่องอื่นๆ ครับ ประมาณว่าจริงๆ แล้วเธอจะดูเด่น ดูมีเสน่ห์ แต่ยังไม่มีโอกาสได้เล่นนำเป็นตัวหลักในหนังใหญ่ๆ แล้ว Hallmark นี่แหละที่มักจะตาถึงไปดึงพวกเธอมาแสดงนำ
ถ้าว่ากันถึงองค์ประกอบแล้ว หนังเรื่องนี้มีครบสำหรับหนังภัยพิบัติครับ คือมีตัวละครฮีโร่กู้โลก มีภาพภัยพิบัติ ภาพระเบิด ภาพตึกถล่ม มีเงื่อนไขที่เป็นหายนะระดับโลก และที่ขาดไม่ได้คือมีเหตุให้เราลุ้นจนนาทีสุดท้าย
หนังเรื่องนี้ดูแล้วก่อให้บังเกิดอารมณ์ก้ำกึ่ง เพราะจุดที่ชอบก็มีอยู่พอสมควร แต่จุดที่รู้สึกเรื่อยๆ ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน มันคือส่วนผสมระหว่างหนังสงครามการรบกับหนังกำลังภายในที่มีตัวละครมาประมือกันน่ะครับ