
ออกตัวเลยครับว่าผมชอบ The Ring ภาคแรกภาคต้นฉบับของญี่ปุ่น มันถือเป็นหนังสยองแนวหลอน ผสมการสืบสวนเพื่อแก้คำสาปที่ทำได้ลงตัวมากเรื่องหนึ่ง ชนิดที่จะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหมุดไมล์สำคัญของหนังสยองก็ว่าได้
ออกตัวเลยครับว่าผมชอบ The Ring ภาคแรกภาคต้นฉบับของญี่ปุ่น มันถือเป็นหนังสยองแนวหลอน ผสมการสืบสวนเพื่อแก้คำสาปที่ทำได้ลงตัวมากเรื่องหนึ่ง ชนิดที่จะเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหมุดไมล์สำคัญของหนังสยองก็ว่าได้
ภาคต่อที่ย้อนไปเล่าเรื่องที่มาที่ไปของผีสางที่สร้างความสยองให้กับเหล่าวัยรุ่นใน Ouija ภาคแรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่แม้จะไม่ใหม่ แต่ก็ดีเหมือนกันครับ
หนังชุด The Purge ดูเล่นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ ภาคแรกเหตุเกิดในบ้าน ภาค 2 เหตุเกิดพล่านเมือง และในภาคนี้ประเด็นที่เอามาเล่นก็ถือว่าระดับประเทศทีเดียว แต่ถ้าพูดถึงความใหญ่ของเหตุการณ์แล้ว ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าภาค 2 ครับ พล่านเมืองพอกัน
สำหรับผมแล้ว ภาคแรกถือว่าเรื่อยๆ ครับ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ได้ถึงกับติดใจโปรดปรานอะไร แม้ผมจะชอบหนังแฟนตาซีประมาณนี้และหลายอย่างในหนังจะดูไม่เลว และให้ความบันเทิงได้ระดับหนึ่งก็ตาม แต่โดยรวมแล้วหนังยังจับใจขนาดนั้น
สารภาพว่าเผื่อใจตั้งแต่ตอนดูตัวอย่างแล้วครับ มันตระหนักอยู่ลึกๆ ในใจว่าหนังอาจจะไม่โดนใจเรา และรสชาติคงไม่เหมือนหนังของเฮียโจวซิงฉือสมัยก่อนที่เราเติบโตมา
ภาคแรกถือว่าดูเอามันส์ได้เพลินๆ ครับ มาภาคนี้ก็อีหรอบเดียวกัน คือดูเอาสนุก เอามันส์ เอาฮา แล้วก็ดูแสงสีกับ Effect ซึ่งถ้าใครชอบอะไรพวกนี้ล่ะก็ เต่านินจาภาคใหม่นี่ก็ตอบโจทย์เลยล่ะ
หนังเรื่องนี้มันทางของผมชัดๆ ครับ แนวสยอง ลึกลับ น่ากลัวแบบกินบรรยากาศ มีปมปริศนาให้ตาม มีความซับซ้อนให้มึนนิดๆ แบบนี้ล่ะครับ ผมชอบ ^_^
ชอบมากกว่าที่คิดแฮะเรื่องนี้ สนุกดีครับ ตัวการ์ตูนออกแบบได้น่ารัก ดูเพลิน ความฮามาเรื่อยๆ เนื้อเรื่องแม้จะพอเดาได้แต่ก็น่าติดตาม และประเด็นสาระก็ถือว่าดีทีเดียว
เรื่องนี้นิยามได้แบบไม่อ้อมค้อมเลยครับว่ามาสูตรเดียวกับ The Forbidden Kingdom แบบเด๊ะๆ (เพียงแต่จะไม่มีดาราใหญ่ระดับเฉินหลงหรือหลี่เหลียนเจี๋ยมาร่วมจอเท่านั้นแหละ)
เดินทางมาถึงภาค 5 แล้วครับสำหรับ Underworld