ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนดู Larry Crowne อีกรอบน่ะครับ (นำแสดงโดย Tom Hanks ทั้งคู่) คือมันรู้สึกเหมือนกันเลยว่าทั้งเรื่องนี้และเรื่องนั้นเป็นหนังชีวิตที่จริงๆ แล้วมีดี แต่การนำเสนอยังน่าติดตาม และสาระประเด็นดีๆ ก็ไม่ได้รับการบอกเล่าให้เข้าถึง
ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนดู Larry Crowne อีกรอบน่ะครับ (นำแสดงโดย Tom Hanks ทั้งคู่) คือมันรู้สึกเหมือนกันเลยว่าทั้งเรื่องนี้และเรื่องนั้นเป็นหนังชีวิตที่จริงๆ แล้วมีดี แต่การนำเสนอยังน่าติดตาม และสาระประเด็นดีๆ ก็ไม่ได้รับการบอกเล่าให้เข้าถึง
นี่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมดูในช่วงยุคสุดท้ายของ VDO นะครับ ตอนนั้นเรียนมหาลัยปีแรก ตอนนั้นยังเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า VDO คงไม่สูญพันธุ์หรอก แต่แล้วก็ไม่มีอะไรแน่นอนครับ พอถึงเวลาวีดีโอก็กลายเป็นเพียงอดีตเท่านั้น
สำหรับหนังที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้นะครับเป็นหนังทีวี ที่ทางช่อง Hallmark ทำออกมาฉายในช่วงคริสต์มาสปี 1999 ซึ่งก็แน่นอนครับว่าหนังต้องเกี่ยวกับวันคริสต์มาสน่ะแหละ และไม่ใช่เกี่ยวธรรมดาครับ เพราะมันสร้างจากนิยายคลาสสิคมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือนิยายชื่อ A Christmas Carol ของ Charles Dickens โอ้ อันนี้ดังมากนะครับ ขึ้นชื่อว่าคลาสสิคแล้วยังถูกนำมาสร้างเป็นหนังบ้าง ละครบ้าง หนังทีวีหรือละครเวที คือสร้างกันเวียนไปมาหลายครั้งเหลือเกินครับ
ครับ มาอันนี้ก็ยังป้วนเปี้ยนเกี่ยวกับช่วงคริสต์มาสแม้จะไม่ได้เกี่ยวโดนตรง ไม่ได้มีซานตาคลอสก็เถอะ แต่ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์คริสต์มาสเหมือนกัน
อาวุธลับอันทรงประสิทธิภาพของแวมไพร์ คือ เสน่ห์อันรัญจวนยวนใจ ยั่วให้คนหลงใหลไปกับมัน เหยื่อน้อยใหญ่เมื่อโดนอาวุธนี้แล้วก็ยากจะหนีพ้น บ้างก็หลงใหลรูปโฉมชวนพิสมัย บ้างพอสัมผัสก็ปลุกตัณหาหลากประการขึ้นมาในดวงจิต บ้างก็เกิดปรารถนาอยากกลายเป็นแวมไพร์เลยก็มี
อีกเฮือกหนึ่งของ Sylvester Stallone และผู้กำกับ Renny Harlin นะครับ หลังจากเคยร่วมกันดังมาแล้วใน Cliffhanger
Sylvester Stallone กับหนังแนวชีวิตปนแอ๊คชั่นอีกครั้งครับ คราวนี้เขารับบทเป็นลินคอร์น ฮอว์ค สิงห์รถบรรทุกที่ต้องการจะผูกสัมพันธ์กับลูกที่ห่างเหินของเขา ไมเคิล คัตเลอร์ (David Mendenhall) ช่วงแรกก็ทุลักทุเลอยู่ครับ แต่ซัพกัพ่อลูกก็เริ่มเข้าใจกัน แต่ทว่าเจสัน คัตเลอร์ (Robert Loggia) ตาของไมเคิล (หรือพ่อเมียนั่นเอง) เกิดไม่เห็นดีด้วย เลยมีการลงมือขัดขวางทุกวิถีทางครับ เอาล่ะสิ แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันล่ะ
เอาหนังทีวีเก่าๆ มาแนะนำกันนะครับ ก็ด้วยอารมณ์รำลึกอดีตอีกตามเคยล่ะครับ สมัยก่อนตอนที่ค่าย CVDI ยังเรืองอำนาจน่ะนะครับ (เพราะตอนนี้อำนาจเริ่มหดหายแล้วครับ ลิขสิทธิ์หนังมากมายหลุดไปอยุ่กับค่าย Pacific และ Catalyst หมดแล้ว) แต่สมัยก่อนตอนที่เขายังผูกขาดอยู่นั้น หนังสารพัดก็ไหลมาที่นี่ที่เดียวครับ หนังใหญ่หนังเล็กก็ได้ดูจากที่นี่แหละ ซึ่งสมัยนั้นตอนเด็กๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ เอามาดูหมด หนังโรงหนังทีวี มีเกรดไม่มีเกรดไม่รู้เท่าไหร่ ก็ดูๆๆๆ ไป ด้วยความสนุกสนาน
เรื่องนี้ถือว่ามาทางเดียวกับ Knight of Cups ครับ ว่าด้วยชายผู้สับสนและหลงทาง หลังเกิดวิกฤติบางอย่างในชีวิตและจิตใจ ตัวหนังก็จะออกแนวสับสนและรอการค้นหาอยู่หน่อยๆ
ตอนก่อนๆ ถ้าท่านอ่านกันน่ะนะครับ จะเห็นว่าผมชมในเรื่องการเขียนบทของพี่ Sylvester Stallone ในภาคแรกนั้น บทหนังมันสมบูรณ์ครับ เรียบง่ายแต่สมบูรณ์ ส่วนภาคสองก็ป็นส่วนเสริมจากภาคแรก พอมาภาคสามพี่แกก็ฉลาดพอที่จะเปลี่ยนแนวให้กับหนังโดยเพิ่มความมันส์ลงไป พอมาภาคสี่แกก็ผูกเรื่องจากภาคสามมาสร้างเงื่อนไขทางอารมณ์ให้กับคนดู ซึ่งถ้าดูจากสี่ภาคแรกนี่ ยอมรับว่าแกก็มีฝีมือนะครับ
แต่พอมาภาคห้าเท่านั้นแหละ ผมถึงแก่ความงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สไลเนี่ย