ภาคนี้จับเอาปมในอดีตของโธมัส เบ็คเกตต์ (Tom Berenger) มาเล่นครับ ประมาณว่าเมื่อก่อนเขาเคยเสียเพื่อนไประหว่างปฏิบัติการ
ภาคนี้จับเอาปมในอดีตของโธมัส เบ็คเกตต์ (Tom Berenger) มาเล่นครับ ประมาณว่าเมื่อก่อนเขาเคยเสียเพื่อนไประหว่างปฏิบัติการ
ภาคนี้ (และภาคอื่นๆ หลังจากนี้) ทำลงวีดีโอ/แผ่นหมดครับ
ตอนดูภาคนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่เคยคิดเหมือนกันว่ามันจะมีตอนต่อโผล่ออกมาจนถึงตอนนี้ก็ภาค 6 เข้าไปแล้ว
นิค ชิลเลอร์ (Nick Tschiller) คือตำรวจมือพระกาฬที่ไขคดีมานักต่อนักครับ แต่แล้วเขาก็ต้องเสียภรรยาไปด้วยฝีมือของมาเฟียจอมโหดชาวตรุกี และลูกสาวของนิคก็ทราบความจริงเรื่องนี้เข้า เธอเลยเดินทางไปอิสตันบูลเพื่อแก้แค้นด้วยตนเอง
หนังเรื่องนี้จัดไปร่วมขบวนกับ Taken ได้เลยครับ ตัวเอกคือ คาร์ล่า (Halle Berry) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่จู่ๆ ลูกชายก็โดนลักพาตัวไป เธอเลยไล่ล่าพวกมันแบบสุดชีวิต และพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัวลูกของเธอคืนมา
สารคดีของ Werner Herzog คนทำหนังสารคดีระดับตำนานอีกคนของวงการครับ และครั้งนี้เขามาจับประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของภูเขาไฟ นำมาถ่ายทอดให้หลายๆ แง่มุม
ผมชอบคำโปรยบนโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้มากๆ ครับ “Life can be a Real Mother” ถือเป็นคำที่สรุปสาระสำคัญของหนังได้อย่างครบถ้วนทีเดียวครับ “ชีวิต อาจเป็นแม่จริงๆ ของเราก็ได้” ^_^
ไอเดียของหนังเรื่องนี้มันทำให้นึกถึงมุกขำๆ เกี่ยวกับความฝันที่คนฝรั่งชอบเล่ากันน่ะครับ ประมาณว่า “ฉันฝันว่าฉันไปโรงเรียน แล้วจู่ๆ เสื้อผ้าก็หายไป” หรือ “ฉันฝันว่าไปงานแต่งงาน แต่ฉันดันโป๊อยู่” เป็นต้น
เข้าไปดูแบบกึ่งรู้กึ่งไม่รู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครับ ที่ว่ารู้คือ รู้ว่า Teresa Palmer แสดง ซึ่งผมก็พร้อมตามไปเชียร์ผลงานเธอเสมอ (555) และก็รู้นิดๆ หน่อยๆ ว่าหนังน่าจะออกแนวไซไฟ เกี่ยวกับเรื่องเวลาอะไรประมาณนั้น
ไม่รู้มีใครคิดเหมือนผมบ้างหรือเปล่าน่ะนะครับ แต่ผมว่าปีนี้ความน่าสนใจของภาพยนตร์ฉายโรง (หรือกระทั่งหนังแผ่น) มันดูน้อยลงยังไงก็ไม่รู้ ว่าง่ายๆ คือหนังน่าดูมันลดปริมาณลงแฮะ