Action

มังกรหยก ภาค 5 ตอน เอี้ยก้วยกับเซียวเล่งนึ่ง (1983) Little Dragon Maiden

หลังจาก มังกรหยก ฉบับ Shaw Brothers มีการสร้างมาถึง 4 ภาค และได้จบภาค 4 ที่ตรงการต่อสู้หน้าสำนักช้วนจินและยังไม่มีการเปิดตัวเซียวเหล่งนึ่ง ตอนแรกก็มีแผนว่าจะสร้างต่อโดยให้ ฟู่เซิง มารับบทเอี้ยก้วยตามเดิม

แต่กลายเป็นว่าฟู่เซิงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในปี 1983 แผนเลยมีอันต้องเปลี่ยน บทเอี้ยก้วยก็ตกเป็นของ เลสลี่ จาง (Leslie Cheung) และบทเซียวเหล่งนึ่งก็ได้ องจึ้งจง (Yung Jing Jing) มาสวมบท เช่นเดียวกับผู้กำกับที่เปลี่ยนเหมือนกัน

และกลายเป็นว่ามังกรหยกภาคนี้มีการดัดแปลงและตัดทอนเรื่องราวจนเล่าให้จบภายในภาคเดียวครับ คือเริ่มเรื่องตอนที่ลี้มกโช้ว (เถียนหนี, Tien Ni) ก่อการล้างเลือดตระกูลเล็ก แล้วก็เล่ายาวไปถึงตอนท้ายที่เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งได้กลับมาอยู่ด้วยกัน พร้อมทั้งปราบราชครูจินหลุน จ้าวธรรมจักรทอง (หลงเทียนเสียง, Lung Tien Hsiang) เป็นที่เรียบร้อย

สิ่งหนึ่งที่รู้สึกระหว่างดูก็คืองานสร้างและอะไรหลายๆ อย่างดูจะไม่ขลังเท่าที่ 3 ภาคแรกเคยทำเอาไว้ครับ ในขณะที่โครงเรื่องหลักๆ ก็จะยังคงเดิมไว้เป็นส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็มีการดัดแปลงอะไรหลายๆ อย่างทั้งตัวเรื่อง เหตุการณ์ และคาแรคเตอร์ตัวละครที่หากใครดูหรืออ่านมังกรหยกภาคเอี้ยก้วยมาก่อนก็อาจจะรู้สึกแปลกๆ

จริงๆ ดาราน่ะเล่นดีนะครับ ถือว่าเล่นได้ดีตามที่บทเขียนมา เพียงแต่บทมันอาจจะชวนให้รู้สึกแปร่งๆ ไปบ้าง อย่างคาแรคเตอร์ของอึ้งย้งในเรื่องที่ดูเจ้าอารมณ์กว่าที่เคยเห็น หรือในบางวาระก็ดูไม่ใช่อึ้งย้งแบบที่คุ้นเคย อย่างตอนชุมนุมชาวยุทธที่อึ้งย้งดูเหมือนจะขาดความมั่นใจจนทำตัวไม่ถูกยามที่ชาวยุทธมารุมล้อม จนถึงกับต้องมองหน้าก๊วยเจ๋งแล้วส่งสายตาประมาณว่า “ข้าควรวางตัวอย่างไร” ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่าอารมณ์แบบนี้น่าจะเกิดกับก๊วยเจ๋งมากกว่า

หรือเซียวเหล่งนึ่งเองแม้จะยังมีความเย็นชาและนิ่งขรึมอยู่ แต่บางฉากดูแล้วก็แอบรู้สึกว่า “มายังไงเนี่ย” อย่างตอนที่นางเล่นน้ำตกกับเอี้ยก้วยอย่างสนุกสนาน มีการสาดน้ำใส่กันอย่างร่าเริง – เลยออกจะเป็นแม่นางเหล่งนึ่งในเวอร์ชั่นที่ไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่

ระหว่างดูเลยแอบมีความแปร่งทางอารมณ์บ้างน่ะครับ แต่พอดูไปสักพักก็พยายามสลัดหัวนะ ประมาณว่าไม่อยากคิดมาก ดูไปตามแบบที่เขาทำมาก็แล้วกัน ซึ่งถ้าดูแบบสลัดหัวสลัดภาพเดิมๆ ของตัวเรื่องออกไป หนังก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ น่ะครับ คือไม่ได้เด่นเป็นพิเศษ ไม่ได้ชวนจดจำมากมาย แต่ก็ดูได้พอเพลิน

สำหรับดาราในเรื่องนอกจากที่กล่าวไปแล้วก็ยังมี เฉินกวนไถ้ (Chen Kuan Tai) เป็นก๊วยเจ๋ง, หลิวเซียะหัว (Leanne Liu) เป็นอึ้งย้ง, โหวปิ่งอิ๋ง (April Hou) เป็นก๊วยพู้, หลอลี่ (Lo Lieh) เป็นอาวเอี๊ยงฮง, กุ๊ฟง (Ku Feng) เป็นอั้งชิดกง, ซุนเจี้ยน (Sun Chien) เป็นนักพรตคูชู่กี, กู้กวนจง (Ku Kuan Chung) เป็นองค์ชายฮั่วตู และ เกาสง/Ko Hung เป็นต้าเอ่อปา ส่วนคนกำกับก็คือ หัวซาน (Hua Shan) ครับ

และเมื่อพูดถึงความเป็นภาคต่อ ก็พบว่าภาคนี้นี่บางคนก็ไม่นับว่าเป็นภาคต่อจากชุดของฟู่เซิง หรือบางคนก็ถือเป็นภาคแยก ก็แล้วแต่น่ะนะครับ ส่วนผมก็ขอนับง่ายๆ ว่าสร้างต่อกันมา ก็นับต่อกันไปให้มันเข้าชุด แต่ถ้าให้พูดจากใจในฐานะที่ชอบหนังและเรื่องราวของชุดมังกรหยกก็คงต้องบอกว่าภาคนี้ค่อนข้างธรรมดาครับ ส่วนตัวถ้าจะเอาหนังชุดนี้มาดูก็คงดูถึงแค่ภาค 3 พอ

สองดาวครับ

(6/10)