หลังความสำเร็จแบบสุดๆ จาก Basic Instinct ทำให้หนังแนวอีโรติคทริลเลอร์ที่ถือว่าทำกันออกมาระดับหนึ่งอยู่แล้วในยุค 80 – 90 กลายเป็นบูมหนักขึ้นมาครับ มีหนังแนวนี้ผุดออกมาเพียบ และเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยคนที่มาแสดงนำก็คือ Sharon Stone ที่กำลังบูมมากๆ ในตอนนั้นนั่นเอง
หนังสร้างจากนิยายของ Ira Levin (ผู้เขียน Rosemary’s Baby และ The Stepford Wives) แล้วก็ได้ Joe Eszterhas มือเขียนบทจาก Basic Instinct มาดัดแปลงเป็นบทหนังให้ เรื่องราวก็ว่าด้วย คาร์ลี่ นอร์ริส (Sharon Stone) บรรณาธิการสาวที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ ในอพาร์ตเมนต์ห้อง 20 บี ซึ่งเธอก็มารู้ทีหลังว่าเจ้าของห้องคนก่อนน่ะเสียชีวิตด้วยการร่วงลงจากห้องไป
แล้วระหว่างนั้นก็มีหนุ่ม 2 คนมาข้องแวะกับเธอ รายแรกคือ แจ๊ค แลนด์สฟอร์ด (Tom Berenger) นักเขียนนิยายแนวลึกลับที่ดูจะสนใจเธอแบบออกหน้าออกตา และ ซีค ฮอว์กินส์ (William Baldwin) หนุ่มหล่ออีกคนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกับเธอ – แต่แล้วเธอก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะความรู้สึกที่เหมือนมีใครจ้องมองเธออยู่ หรือเพื่อนร่วมตึกของเธอจู่ๆ ก็มาตาย และเธอก็เริ่มสงสัยแล้วว่าคนใกล้ตัวของเธอบางคนนี่แหละที่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องแปลกๆ ทั้งหลาย รวมถึงการเสียชีวิตของเจ้าของห้องคนเก่าด้วย
แน่นอนว่าผมจำหนังเรื่องนี้ได้แม่นครับ ไม่ใช่เพราะเป็นหนังแนวอีโรติคแล้วมี Stone นำแสดงเท่านั้นนะ แต่ผมจำได้แม่นจากฉบับนิยายครับ ซึ่งผมไม่เคยอ่านหรอก ซึ่งก็ดูเหมือนจะมีหลายปก บางปกก็ตั้งชื่อทับศัพท์ไปเลยว่าสลิฟเวอร์ แต่ปกที่จำได้แม่นเขาตั้งชื่อหนังสือไทยไว้ว่า “ถ้าแอบมอง… ก็ต้องมีอย่างว่า” ซึ่งผมจะเจอบ่อยมากยามไปเดินร้านหนังสือมือสอง ดังนั้นพอเจอทีไรก็จะชูให้เพื่อนดูทุกที ประมาณว่า “เฮ้ย เจออีกแล้ว” และอีกเหตุผลก็คือชื่อไทยตั้งได้น่าจดจำสุดๆ 5555
มาที่ตัวหนังกันนะครับ พูดแบบตรงๆ เลยคือผมค่อนข้างเฉย โอเค มันก็เป็นหนังอีโรติคทริลเลอร์นั่นแหละ แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างจืด ตัวเนื้อหาถือว่าไม่ค่อยมีอะไร แต่ที่จืดกว่าคือการเดินเรื่องที่ออกแนวเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่ค่อยจะมีความระทึกอะไรสักเท่าไร ความน่าติดตามก็เลยไม่เยอะ หรือบรรยากาศแบบระทึกๆ มันก็เหมือนจะมีนะครับ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ มันรู้สึกเลยว่ากลิ่นอายความระทึกมันเจือจางอย่างยิ่ง
ส่วนเรื่องอีโรติคนั้นก็ยอมรับล่ะครับว่าหนังก็มีฉากทำนองนั้นอยู่ แต่ก็ออกมาจืดๆ ชืดๆ เหมือนกัน ชนิดที่คนละเรื่องกับ Basic Instinct ห่างกันคนละโยชน์เลยล่ะ ในขณะที่เคมีของ Baldwin กับ Stone ก็ดูจะไม่เข้ากันสักเท่าไร
ตอนดูชื่อผู้กำกับก็แอบเกิดคำถามเหมือนกัน เพราะเขาคือ Phillip Noyce ผู้อยู่เบื้องหลัง Patriot Games และ Clear and Present Danger หรือถ้าแนวระทึกขวัญนี่เรื่อง Dead Calm ที่เขาทำไว้ก็ถือว่าใช้ได้ แต่กับเรื่องนี้อะไรๆ มันกลับดูธรรมดาไปเสียหมด
ตอนดูรอบแรกยอมรับว่าเฉย ครั้นเอมาดูรอบใหม่ก็ยังเฉยอยู่ แต่รอบนี้ดูด้วยความเข้าใจครับ เพราะดูเหมือนว่าการที่หนังมันออกมาชืดๆ แบบนี้ มันก็มีที่มาที่ไปอยู่เหมือนกัน
อย่างแรกเลยคือพอ Stone ได้มาแสดง เธอก็แสดงความประสงค์อยากได้ Brad Pitt มาแสดงนำร่วมกับเธอครับ เพราะเธอมองว่า Pitt เป็นตัวเลือกที่เหมาะและจะมีส่วนทำให้หนังฮิต อีกทั้งจะทำให้ฉากร้อนๆ ทั้งหลายนั้นดูร้อนและน่าจดจำมากขึ้นไปอีก แต่ Noyce กลับปฏิเสธ เพราะตอนนั้น (ช่วงปี 1992) Pitt ยังไม่ดังเท่าไรครับ ในขณะที่ William Baldwin ตอนนั้นมีหนังฮิตในมืออย่าง Flatliners และ Backdraft อีกทั้ง Noyce ยังชอบที่เขาแสดงใน Internal Affairs ด้วย
ด้วยเหตุนี้บรรยากาศในกองถ่ายเลยมีอาการตึงเครียดจน Noyce สัมผัสได้ คือเขารู้เลยว่าพอถ่ายทำไปสักพัก Stone กับ Baldwin ก็ชักจะไม่ถูกกันมากขึ้นๆ ถึงขั้นเคยมีครั้งหนึ่งระหว่างฉากที่ Stone และ Baldwin ต้องจูบกัน แต่มันกลับลงเอยด้วยการที่ Stone กัดลิ้น Baldwin จนส่งผลให้ Baldwin พูดไม่สะดวกเป็นวันๆ ไปเลย
พอรูปการณ์เป็นเช่นนี้ Noyce ก็เลยพยายามลดฉากที่ Stone และ Baldwin ต้องแสดงด้วยกันลงครับ คือถ่ายฉากที่พวกเขาแสดงด้วยกันให้น้อยที่สุด แต่ขนาดถ่ายน้อยแล้ว บรรยากาศตอนพวกเขาเข้าฉากกันก็ยังคงตึงอยู่
นอกจากบรรยากาศในกองถ่ายจะไม่ค่อยดีแล้ว ก็ยังมีประเด็นที่ทำให้ Stone ถูกมองในแง่ลบ นั่นคือเธอให้มีการระบุเงื่อนไขหนึ่งลงไปในสัญญา นั่นคือ เวลาที่เธอกำลังถ่ายทำฉากใดๆ อยู่ก็ตาม ผู้อำนวยการสร้าง Robert Evans จะต้องไม่เข้ามาดูการถ่ายทำเป็นอันขาด – อันนี้ทำให้เธอถูกมองแง่ลบอยู่นานเหมือนกันครับ บางคนก็มองว่าเธอดังแล้วเรื่องมากอะไรทำนองนั้น
แต่ในภายหลังเธอถึงจะมาให้สัมภาษณ์ว่าเหตุผลหนึ่งที่ไม่อยากพบหน้า Evans ก็เพราะ มีครั้งหนึ่ง Evans เคยคุยกับเธอและพยายามบอกให้เธอน่ะไปทำอะไรต่อมิอะไรกับ William Baldwin “จริงๆ” สักครั้ง เพระาเขามองว่า Baldwin ไม่ใช่นักแสดงที่เก่งนัก ดังนั้นการไปทำอะไรต่อมิอะไรนั่นน่าจะสามารถทำให้เคมีของพวกเขาเข้ากันได้มากขึ้น
แน่นอนว่า Stone ปฏิเสธครับ และนั่นก็เลยทำให้หลายคนถึงบางอ้อ ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่อยากพบเจอกับ Evans อีกทั้งยังรู้สึกไม่ถูกกับ Baldwin มากขึ้นและมากขึ้น – แต่ก็แน่นอนอีกเหมือนกันว่า Baldwin ก็ออกมาปฏิเสธ ว่าเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย
ความจริงเป็นเช่นไร… ก็ว่ากันไปครับ เอาเป็นว่าพอการถ่ายทำมันตึงซะขนาดนั้น (นักแสดงนำไม่ถูกกัน + นักแสดงนำไม่ถูกกับผู้อำนวยการสร้าง และ นักแสดงนำเห็นไม่ตรงกับผู้กำกับ) เลยไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จะออกมาขาดๆ เกินๆ ในที่สุด
แต่กลายเป็นว่าหนังทำเงินอยู่นะครับ โอเค ในอเมริกาน่ะทำเงินไม่มาก ทำไปแค่ $36 ล้าน แต่ทุนสร้างน่ะ $40 ล้านครับ มันจึงไม่คุ้มทุน แต่กลายเป็นว่าหนังทำเงินดีมากๆ ในตลาดต่างประเทศ (โดยเฉพาะแถบยุโรป) ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเหตุผลเช่นกัน
ที่หนังไปได้สวยในตลาดเมืองนอกก็เพราะฉบับที่ฉายนั้นเป็นฉบับ “ครบกว่า” ประมาณว่าตอนฉายในอเมริกาเพื่อให้ได้เรต R หนังเลยต้องเฉือนฉากร้อนๆ บางฉากออกไป แต่พอฉายนอกอเมริกาผู้สร้างก็เอาฉากเหล่านั้นใส่กลับเข้าไปใหม่ พร้อมด้วยการโหมประชาสัมพันธ์โดยเอาฉากเหล่านั้นมาเป็นจุดขาย ก่อนจะบวกด้วยพลังของเพลง Soundtrack อีก หนังเลยทำเงินครับ สรุปคือถ้ารวมทั่วโลก หนังทำเงินไปถึง $116 ล้าน เข้าโซนกำไรเรียบร้อย
ก่อนจบขอทิ้งท้ายเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ นั่นคือรายชื่ของคนที่อยู่ในลิสต์มาแสดงเป็นซีค นอกจากที่เอ่ยไปแล้วก็ยังมี Johnny Depp, Val Kilmer, Tom Cruise, Bruce Willis และ Jack Nicholson (ยอมรับว่าอึ้งชื่อสุดท้ายมาก มาได้ไงล่ะนั่น)
ส่วนบทของคาร์ลี่ ก่อนจะตกเป็นของ Stone ก็มีชื่อของ Michelle Pfeiffer, Julia Roberts, Meryl Streep, Demi Moore และ Geena Davis อยู่ในลิสต์ครับ
สรุปจบว่าหนังเรื่องนี้ ดาวครึ่งครับ
(5/10)
หมวดหมู่:Drama, Erotic, Movie Reviews, Thriller












