Action

จอมยุทธซิมเซ่งอี่ (1983) Roving Swordsman

มู่หยงกูฟาง (เฉิงเข่อเหวย, Rainbow Ching, Ching Hor Wai) ต้องการจะให้สกุลมู่หยงกลับมามีอำนาจในยุทธภพอีกครั้ง จึงได้วางแผนชิงคัมภีร์ไฟมาจากไป๋อี้หลง (กวนไห่ซัน, Kwan Hoi-San) เพื่อที่จะได้นำความลับในคัมภีร์นั้นมาสร้างเป็นอาวุธเพื่อใช้สยบจอมยุทธทั่วหล้า โดยแผนการนั้น เริ่มจากการลักพาตัว ไป๋ปิง ลูกสาวของไป๋อี้หลงมาเป็นเครื่องต่อรอง

แต่แผนของฮูหยินมู่หยงก็มีอันต้องสั่นคลอนเมื่อ ซิมเซ่งอี่ (ตี้หลุง, Ti Lung) สหายของไป๋อี้หลงพร้อมด้วยปู้เยียนเฟย เพื่อนหญิงคนสนิทของซิมเซ่งอี่ ได้ยื่นมือเข้ามาขัดขวางแผนนี้

หนังถือว่าดูได้เพลินๆ ตามสไตล์หนัง Shaw Brothers ครับ แต่รู้สึกเลยว่าหนังเดินเรื่องแบบห้อตะบึงไปข้างหน้า คือพอเปิดเรื่องมาแล้วแนะนำแผนของพวกฮูหยินมู่หยงแล้ว หนังก็เหมือนจะใส่เกียร์เร็วเดินเรื่องแบบต่อเนื่อง นั่นคือเราจะได้เห็นพวกซิมเซ่งอี่และมู่หยงกูฟางผลัดกันแก้เกมอยู่ตลอด เช่น ตานี้มู่หยงมาพร้อมแผน แต่ซิมเซ่งอี่ก็ยับยั้งได้ แต่ในเวลาต่อมาพวกมู่หยงก็เอาแผนมาซ้อนแผนอีกทำให้ซิงเซ่งอี่เพลี่ยงพล้ำ แต่แล้วซิงเซ่งอี่ก็ใช้ความเหนือแก้สถานการณ์ได้ต่อ

เนี่ยครับ ตลอดความยาวหนังประมาณ 1 ชั่วโมงเกือบครึ่งเรื่องมันจะเดินไปตลอด จริงๆ ต้องถือว่าเดินเรื่องไว แต่หากเอามาดูด้วยสายตายุคนี้แล้วหลายคนก็อาจรู้สึกว่ามีหนังที่ไวกว่า แต่อันนี้้ก็ต้องมองว่าหนังน่ะเก่ากว่า 40 ปีแล้วน่ะครับ เดินเรื่องแบบนี้ก็ถือว่าเร็วมากแล้ว

ในด้านคิวบู๊ถือว่าออกมาเรื่อยๆ ครับ คือมีฉากตีกันทั้งตัวต่อตัวและตะลุมบอนแทรกอยู่เป็นพักๆ นั่นแหละ แต่กระบวนท่าลีลาอาจยังไม่เด่นนัก ในความคิดผมหนังดูจะเข้าท่าตรงการเดินเรื่องที่ฉับไว และการชิงไหวชิงพริบแก้เกมระหว่างฝ่ายดีและฝ่ายร้ายมากกว่า ซึ่งก็ถือว่าเพลินดี

แน่นอนว่าอีกพลังหนึ่งของหนังก็คือดาราครับ ไม่ว่าจะ จิงลี่ (Ching Li), โอวหยางเพ่ยซัน (Auyeung Pui-San), กุ๊ฟง (Ku Feng) ในบทนักพรตเปี้ยนฮั่ว นักแปลงโฉม และ กู้กวนจง (Ku Kuan-Chung) ในบทนักฆ่ากูตู๋เยี่ยน 2 รายหลังนี่ทำงานให้มู่หยงกูฟาง แล้วก็ยังมี Kuan Feng มาในบทราชครูฟงยู่ซุง ที่ตามล่าตูกู๋เยี่ยนตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง แล้วไปๆ มาๆ เลยมาช่วยพวกซิมเซ่งอี่ด้วยเลย

หนังกำกับโดย ฉู่หยวน (Chor Yuen) ที่คร่ำหวอดกับหนังตระกูลนี้มานาน โดยรวมผมว่าหนังดูสนุกใช้ได้เลยครับ อีกอย่างที่เข้าตาคืองานสร้างและงานฉากต่างๆ ถือว่าทำได้ดี ดูยิ่งใหญ่แลดูมีรายละเอียด เรียกว่าใครชอบหนังแนวนี้นี่ผมก็อยากให้ลองเลยครับ ไม่น่าจะผิดหวังหรอก ส่วนผมก็ชอบในแต่ละส่วนอย่างที่บอกไป แล้วอีกอย่างที่ชอบคือจุดพลิกผันหักมุมที่ถือว่าทำออกมาได้ดี เพียงแต่ยังติดตรงคิวบู๊ที่ยังมันส์แบบเต็มที่เท่านั้นแหละ

สองดาวกว่าๆ บวกๆ ครับ

(6.5/10)