ผมเคยดูเรื่องนี้ไปแล้วรอบหนึ่ง (ดู 2 ภาครวดครับ) แล้วก็รู้สึกโอเคนะ คืออาจไม่ได้ชอบมากมาย แต่หนังดูสนุกใช้ได้ จนตัดสินใจเอากลับมาดูอีกรอบนี่แหละครับถึงได้ฤกษ์เอามาเขียนซะที
ตัวเอกคือ ทรี เกลบ์แมน (Jessica Rothe) นักศึกษาสาวที่โดนฆาตกรสวมหน้ากากไล่ฆ่า แต่พอมันฆ่าเธอได้ เธอกลับตื่นขึ้นมาในวันเดิมอีกครั้ง แลัวมันก็วนลูปแบบนี้ไปอีกหลายรอบครับ จนในที่สุดทรีเลยตัดสินใจสืบหาว่าใครกันแน่ที่พยายามฆ่าเธอ และที่สำคัญก็คือ เธอจะออกจากลูปเวลานี้ไปได้ยังไงกัน?
หนังมาในแนว Groundhog Day แบบหนังเชือดครับ เขียนบทโดย Scott Lobdell ที่เคยผ่านงานหนังตลกอย่าง Man of the House มาก่อน (ที่ลุง Tommy Lee Jones เล่นเป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยพิทักษ์เหล่าเชียร์ลีดเดอร์น่ะครับ) มาเรื่องนี้ก็ถือว่าเข้าท่าครับ บทเข้าท่าดี แม้จะไม่ได้สดใหม่เสียทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นการจับเอาไอเดียเก่าๆ มาเขย่ากันได้อย่างพอเหมาะ
ส่วนหน้าที่กำกับก็ตกเป็นของ Christopher Landon ที่เคยทำ Paranormal Activity: The Marked Ones และ Scouts Guide to the Zombie Apocalypse มาก่อน ซึ่งบอกได้เลยครับว่าเรื่องนี้ถือเป็นงานที่เด็ดสุดของเขา ตัวหนังมีครบทั้งความตื่นเต้น ความฮา ความลุ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกเหมือนเดิมทั้งการดูรอบนี้และรอบแรก ก็คือ รู้สึกว่าช่วงต้นๆ มันเรื่อยไปหน่อยน่ะครับ รู้สึกว่าแรงดึงดูดให้ติดตามยังไม่เยอะ ต้องรอจนทรีโดนฆ่าสัก 2 – 3 รอบ ตอนนั้นอะไรๆ มันถึงเริ่มดูน่าสนใจ และความน่าติดตามค่อยไหลมาเทมา
Rothe ถือว่าเล่นได้ดีเลยล่ะครับ ตอนแรกเธอดูเป็นผู้หญิงเฉี่ยวๆ ที่ไม่ค่อยคิดถึงจิตใจคนอื่น และทำทุกอย่างตามใจต้องการ ซึ่งก็ตามสูตรของหนังแนวนี้ล่ะครับ ว่าพอเธอเจอเหตุการณ์วนลูปมากๆ เธอก็จะได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตไปทีละน้อย จนในที่สุดเธอก็เปลี่ยนเป็นอีกคนที่น่ารักขึ้น ซึ่งผมดูแล้วเชื่อทั้งหมดครับ (เชื่อว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวในตอนแรก และเป็นคนที่ดีขึ้นในตอนหลัง) และอีกคนที่จัดว่าลื่นก็คือ Israel Broussard ในบทคาร์เตอร์ รายนี้ก็ดูเป็นคนดีเหลือเกินจริงๆ เชียว
อย่างที่บอกครับว่าตอนต้นหนังก็เรื่อยๆ หน่อย ยังไม่ค่อยอะไรมาก แต่พอทรีเริ่มคิดสืบหาตัวฆาตกรหนังก็เริ่มมีรสชาติขึ้น เช่นเดียวกับปมต่างๆ ที่มีอะไรให้ตามให้ลุ้นมากขึ้นตามลำดับ โดยส่วนตัวผมว่าหนังทำได้เข้าท่าทั้งในฐานะหนังเชือด หนังไซไฟ และหนังแนว Groundhog Day เลยครับ คือมันไปกันได้และดูสนุกด้วย
เข้าใจเลยครับว่าทำไมหนังถึงดัง ทำเงินทั่วโลกไปกว่า $125 ล้าน จากต้นทุนแค่ $4.8 ล้านครับ กำไรถล่มทลายจนไม่น่าแปลกใจที่ภาคต่อต้องตามมา
สองดาวกว่าๆ บวกๆ ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Comedy, Horror, Movie Reviews, Mystery, Slasher Movies, Thriller












