ดัดแปลงจากวรรณกรรมอมตะของ Charles Dickens ครับ เรื่องของหนุ่มน้อยนิโคลัส นิคเคิลบี (Charlie Hunnam) ที่สูญเสียพ่อไป ทำให้เขาต้องยืนหยัดหาทางดูแลแม่ (Stella Gonet) และน้องสาว (Romola Garai) อีกทั้งต้องคอยรับมือกับ ราล์ฟ นิคเคิลบี (Christopher Plummer) คุณลุงผู้มีจิตใจอันร้ายกาจ พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ตนได้ประโยชน์ และพร้อมเอาเปรียบทุกคนทุกครั้งที่ทำได้

หนังก็บอกเล่าการผจญภัยของนิโคลัสน่ะครับ ที่ต้องเจอทั้งคนดีและไม่ดี เจอทั้งมิตรและศัตรู ก็ถือว่าออกแนวเรื่องคนดีสู้ชีวิต แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามและเรื่องรวดร้าวใจบ้าง แต่สุดท้ายแล้วด้วยความที่เขามุ่งมั่นในความดี เขาก็เลยได้รับผลดีในท้ายที่สุด

ผมนั้นยังจำได้เลยว่าเคยเห็นหนังเรื่องนี้ครั้งแรกตอนออกแผ่นในร้านเช่าเมื่อ 20 กว่าปีก่อน บอกตรงๆ ว่าสมัยนั้นยังไม่ถึงกับอยากดูอะไรมากมาย ส่วนหนึ่งก็คงเพราะหนังแนวนี้สมัยก่อนน่ะมีออกมาเรื่อยๆ ครับ ทั้งหนังโรงหนังแผ่น เลยรู้สึกเฉยๆ ชินๆ อารมณ์ประมาณ “มีให้ดูเยอะแยะเต็มชั้นไปหมด ไว้เมื่อไรค่อยดูก็ได้”

แต่พอมาถึงตอนนี้ บอกได้เลยครับว่าผมกระหายที่จะดูอย่างยิ่ง เพราะหนังแนวนี้มันมีไม่ค่อยเยอะแล้วในยุคนี้ ครั้นพอได้ดูก็เหมือนได้ย้อนรำลึกไปในวันเก่าๆ น่ะครับ ยุคสมัยที่เรามีความสุขกับการเลือกหนังตามร้านเช่า ในแง่หนึ่งหนังในร้านเช่ามันอาจมีจำกัดน่ะ ไม่ได้มีเยอะแบบค้นเท่าไรก็ไม่หมดแบบในโลกสตรีมมิ่งทุกวันนี้ แต่ผมกลับรู้สึกว่าหนังสมัยนั้นมันน่าดูแฮะ และแม้ตัวเลือกจะไม่เยอะ แต่มันค่อนข้างครบ อยากดูแนวรักก็มี แนวชีวิตก็มี แนวสยองก็มี หรือแนวแอ็คชั่นก็ได้ ถือว่ามีมากพอแล้วที่จะให้เราเช่ากลับไปดูแล้วตอบโจทย์ความบันเทิงในแต่ละคืน

ในขณะที่ทุกวันนี้หนังสตรีมมิ่งมีเยอะก็จริง แต่ผมว่าไม่ค่อยจะหลากหลายนะ และบางทีพอมันเยอะเกินก็ทำให้เราใช้เวลาในการเลือกมาก จนบางทีก็มาเกินจำเป็น ดีไม่ดีสุดท้ายวันนั้นก็ไม่ได้ดู เพราะแค่เลือกก็ปาไป 2 ชั่วโมงแล้ว 555

สำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังดีครับ บอกก่อนว่าการเดินเรื่องไม่ได้หวือหวาอะไร เป็นการเล่าเรื่องเหมือนเปิดนิยายอ่านไปทีละหน้า พาเราร่วมผจญภัยไปกับนิโคลัส ซึ่งไม่ใช่เป็นการผจญภัยแบบแฟนตาซี แต่จะเป็นการผจญภัยในโลกแห่งการใช้ชีวิต ในโลกแห่งการทำงาน และโลกแห่งธุรกิจ ซึ่งหนังถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ ดาราเล่นกันดี การเล่าเรื่องก็ถือว่าพอเหมาะ เพียงแต่ก็ต้องยืนยันอีกครั้งว่านี่เป็นหนังดราม่าน่ะนะครับ ไม่ได้มีเรื่องราวเร่งเร้าระทึกใจอะไร และแม้จะบอกว่าเป็นหนังเกี่ยวกับโลกของการทำงาน แต่มันก็ไม่ใช่ Hanzawa Naoki น่ะเน้อะ มันเลยไม่ได้เข้มข้นตื่นเต้นอะไรแบบนั้น

ก็ถือเป็นงานยุคแรกๆ ของ Hunnam ครับ ตอนนั้นยังละอ่อนอยู่เลย แล้วก็ได้มาประกบกับ Anne Hathaway ที่ตอนนั้นก็ละอ่อนพอกัน ซึ่งถ้าว่าในแง่การแสดงแล้วพวกเขาก็ยังไม่ได้เจ๋งแจ๋วเท่าสมัยนี้ แต่ก็ถือว่าไปได้สวยเลยล่ะครับสำหรับหน้าใหม่ ในขณะที่ดาราลายครามเจ้าอื่นก็ถือว่าน่าจดจำทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Plummer, Tom Courtenay, Jim Broadbent, Edward Fox, Nathan Lane, Alan Cumming, Timothy Spall และ Roger Ashton-Griffiths

ของดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือดนตรีงดงามของ Rachel Portman ที่ถนัดอยู่แล้วครับกับหนังพีเรียดแบบนี้ ส่วนผู้กำกับก็คือ Douglas McGrath ผู้ล่วงลับโดยเรื่องนี้ผมยกให้เป็นงานชิ้นที่น่าจดจำที่สุดของเขาครับ ถือว่าสร้างออกมาได้ดี กลมกล่อม ครบรส เดินเรื่องพอเหมาะ และเนื้อหาสาระก็จัดว่าให้แรงบันดาลใจกับคนที่ใฝ่ทำดี อีกทั้งยังจิกกัดความเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอมของใครหลายๆ คนในสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งหนังคุณภาพที่น่าจดจำครับ

ก็ต้องแล้วแต่ความชอบนะครับ ใครไม่สันทัดหนังดราม่าพีเรียดหรือไม่ถูกกับหนังที่เรื่อยๆ ก็อาจไม่ใช่แนวสำหรับท่าน แต่หากใครชอบหนังแนวนี้, อยากดูผลงานแรกๆ ของดาราที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน หรืออยากดูหนังที่ดัดแปลงจากงานของ Dickens ดีๆ ล่ะก็ เรื่องนี้ผมขอนำเสนอเลยครับ

สองดาวครึ่งสวยๆ ครับ

(7/10)