
บ็อบบี้ โจนส์ (Will Poulter) แคดดี้หนุ่มที่ไปพบศพชายคนหนึ่งที่ตกจากหน้าผา และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ เลยทำให้เขากับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่างเลดี้ฟรานเชส เดอเวนต์ (Lucy Boynton) ร่วมมือกันไขปริศนาว่าชายที่ตายไปนั้น เป็นเหยื่อการฆาตกรรมหรือไม่ และมีอะไรอยู่เบื้องหลังการตายครั้งนี้
ถือเป็นมินิซีรี่ส์ที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ จริงๆ โครงเรื่องน่ะน่าสนใจ ปมก็นับว่าโอเค แต่การเล่าเรื่องออกจะอืดช้าไปบ้างในหลายๆ วาระ – มินิซีรี่ส์นี้มี 3 ตอนครับ ตอนหนึ่งก็ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่าลดเหลือ 2 ตอนได้ก็น่าจะดี น่าจะกระชับกว่า และส่งผลให้ความน่าติดตามมันไหลมาเทมามากกว่า
พลังสำคัญของมินิซีรี่ส์นี่ต้องยกให้นักแสดงเลยครับ Poulter ถือว่าเหมาะกับบทบ็อบบี้ไม่ใช่น้อย ยอมรับเลยครับว่าระหว่างดูผมก็แอบทึ่งนะ จากเด็กน้อยหน้าร้ายใน The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Treader มาตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่มแล้วครับ ซ้ำยังหน้าตาดูดีและดูองอาจไม่น้อยด้วย ถ้าเลือกงานดีๆ ผมว่าเขายังไปได้อีกไกลครับ
แต่รายที่ต้องยกนิ้วให้หนักๆ เลยคือ Boynton เรื่องนี้เธอปล่อยของอุตลุดครับ ดีกรีความสนุกและความน่าติดตามเพิ่มขึ้นก็เพราะเธอนี่แหละ ส่วนบทสมทบอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะ Daniel Ings ในบทโรเจอร์ แบสซิงตัน-เฟรนซ์ หนึ่งในผู้ต้องสงสัย, Jonathan Jules ในบทน็อกเกอร์ เพื่อนซี้ของบ็อบบี้, Alistair Petrie ในบท สาธุคุณ ริชาร์ด โจนส์ พ่อของบ็อบบี้, Conleth Hill เป็นหมอเอลวิน โธมัส คุณหมอขาไม้ที่ห่วงใยบ็อบบี้อยู่เสมอ และเรายังได้เจอ Jim Broadbent, Emma Thompson ด้วยครับ
งานชิ้นนี้ดัดแปลงและกำกับโดย Hugh Laurie คุณหมอเฮาส์ของหมู่เฮานั่นแหละครับ ซึ่งก็อย่างที่บอกไปว่าจริงๆ ถือว่าน่าติดตามไม่เลว แต่ถ้าเฉือนส่วนที่เยิ่นเย้อออกไป ทำให้มันกระชับมากขึ้นกว่านี้ ความสนุกคงเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
และของดีที่ลืมไม่ได้คือ โลเคชั่นงามๆ ภาพทิวเขาและป่าเขียว บรรยากาศชนบทที่แสนจะน่าเดินเล่น สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยเพิ่มความน่าดูให้กับมินิซีรี่ส์ได้ไม่ใช่น้อยเลย
ถือเป็นผลงานที่ดัดแปลงจากงานของ Agatha Christie ที่ทำได้ดีเรื่องหนึ่งครับ เพียงแต่ต้องขอให้ท่านจำใจเรื่องความอืดช้าในบางช่วงเท่านั้นแหละ ถ้ารับได้ผมว่าท่านก็น่าจะสนุกกับมันอยู่พอสมควร
สองดาวครึ่งครับ

(7/10)










