ตอนแรกผมนึกว่า Intern! จะเป็นหนังว่าด้วยคนทำงานน้องใหม่ที่เข้าไปฝึกงานอินเทิร์น แล้วก็เผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ก่อนจะฟันฝ่ามันและเอาชนะได้ในท้ายที่สุด แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ใช่แค่นั้นครับ หนังมีอะไรมากกว่านั้น

ฮารุกะ คาวาคูระ (Yûko Araki) นักศึกษาสาวที่กำลังจะเข้าฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่แล้วเธอก็จะโดนรถชนครับ ส่งผลให้มาซายูกิ มาคิโนะ (Toru Kazama) CEO ของบริษัทนั้นซึ่งอยู่ตรงนั้นพอดี ได้ตัดสินใจวิ่งเข้าไปผลักเธอให้พ้นจากการถูกชน แต่ก็กลายเป็นตัวเขาเองที่โดนชนเต็มๆ อาการเป็นตายเท่ากัน

จากนั้นวิญญาณเขาก็ออกจากร่างมาเจอกับยมทูต (Gaku Sano) ที่ตอนแรกจะมาเอาวิญญาณเขาไป ก่อนจะอธิบายว่าจริงๆ เขายังไม่ถึงฆาตหรอก อายุน่ะยืนถึงร้อยปีด้วยซ้ำ ส่วนคนที่ถึงฆาตน่ะคือฮารุกะต่างหาก แต่พอเขาเข้ามาขวางเลยทำให้ชะตากรรมปั่นป่วน แต่ก็ยังพอมีทางนะ ขอเพียงเขาทำให้ฮารุกะตายตามดวงชะตา แค่นั้นเขาก็จะฟื้นคืนชีพทันที

แน่นอนว่ามาคิโนะไม่ยอมครับ จะให้เด็กสาวคนนี้ตายได้อย่างไร เลยพยายามเจรจาต่อรองกับยมทูตจนได้ความว่า ตามดวงชะตาแล้ว ฮารุกะนั้นต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ชีวิตก็จะไปไม่ถึงไหน หน้าที่การงานก็ไม่ก้าวหน้าอยู่แบบเรื่อยๆ ไปจนตาย แต่หากมาคิโนะสามารถเปลี่ยนดวงชะตาให้ฮารุกะกลายเป็นคนฮึดสู้จนกลายเป็นคนทำงานระดับคุณภาพได้แล้วล่ะก็ ชะตากรรมก็จะเปลี่ยนไป ทั้งเขาและฮาสุกะก็จะรอดทั้งคู่

มาคิโนะเลยตัดสินใจไปสิงร่างมากิ (Anri Okamoto) เพื่อนซี้ของฮารุกะแล้วก็คอยกระตุ้น คอยสอน คอยให้กำลังใจ คอยแนะแนวทางเพื่อเปลี่ยนชะตาให้ฮารุกะ ที่เหลือก็ต้องมาติดตามกันน่ะครับว่าฮารุกะจะเปลี่ยนชะตาตนเองได้หรือไม่

ในแง่ของพล็อต หนังมีอะไรมากกว่าที่คิดครับ ซึ่งผมชอบนะ เหมือนได้ดูหนังหลายๆ แนวในคราวเดียว แนวดราม่าก็มี แนวแฟนตาซีก็ได้ มาพร้อมแง่คิดในการทำงานและการเดินไปสู่ความสำเร็จ แล้วยังมีเงื่อนไขชวนให้ลุ้นใส่ลงไปด้วย อะไรเหล่านี้ถือว่าเข้าท่า

ทีนี้ก็มาว่ากันถึงการเล่าเรื่อง ซึ่งก็ว่าตามจริงคือพลังอาจยังไม่เยอะนัก ความน่าติดตามยังไม่ไหลมาแบบเต็มๆ – อีกนัยหนึ่งก็คือยังดีกว่านี้ได้อีกน่ะครับ – แต่ด้วยความที่หนังมีพล็อตหลายสายและแต่ละพล็อตถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเรื่องที่มาคิโนะพยายามเปลี่ยนดวงชะตาของฮารุกะ เลยพยายามให้กำลังใจและสอนวิธีคิดแบบใฝ่สัมฤทธิ์แบบเต็มที่ แล้วก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับชมรมกลอนที่ฮารุกะตั้งขึ้น ชมรมนี้ก็ลูกผีลูกคนต้องหาทางรักษาไว้เหมือนกัน ไหนจะเรื่องของฮารุกะกับด่านการฝึกงานที่ไม่ใช่จะผ่านได้ง่ายๆ อีก สารพัดพล็อตเหล่านี้มันเลยพอจะดึงคนดูให้ตามเรื่องไปเรื่อยๆ ได้ในระดับหนึ่งครับ

ว่าง่ายๆ คือพล็อตน่ะเข้าท่า มีทิศทางน่าสนใจ ในขณะที่การเล่าเรื่องก็ถือว่าโอเค แต่อยู่ในข่ายดีได้อีกน่ะครับ ยังดึงให้มันน่าสนใจและเปี่ยมพลังมากกว่านี้ได้ ซึ่งก็แอบเสียดายนิดๆ อยู่เหมือนกัน

อีกช่วงหนึ่งที่เสียดายคือตอนท้ายครับ กลายเป็นว่าหลายๆ ปมที่หนังปูพื้นมาแทบตาย บทจะสรุปก็สรุปจบง่ายๆ อย่างการที่สมาชิกชมรมกลอนจะต้องไปแข่งขัน หนังปูมาจนเรารู้สึกว่ามันสำคัญและตอนแข่งกันก็น่าจะมีอะไรลุ้นๆ ไหนจะปมของสมาชิกแต่ละคนอีก แต่กลายเป็นว่าหนังตัดบทส่วนนี้จบแบบง่ายๆ จนแอบอึ้งเลยว่าเอางี้เลยเหรอ อุตส่าห์ปูมาตั้งเยอะ กลายเป็นบทจะจบก็จบ แล้วก็ไม่ได้มีการสรุปสาระดีๆ ที่หนังอุตส่าห์เลี้ยงมาตั้งนาน

ส่วนพล็อตหลักที่ว่าด้วยการฝึกงานของฮารุกะนั้น ช่วงสรุปไคลแม็กซ์ก็ถือว่าพอได้ครับ แต่ก็อีกนั่นแหละ เราไม่ได้สัมผัสกับการพรีเซนต์งานของฮารุกะแบบเต็มๆ ความคล้อยตามมันเลยไม่มาก ฟีลมันเลยไม่ไหลมาเทมา อีกอันที่เสียดายคือความสัมพันธ์ระหว่างมาคิโนะกับยมทูตน่ะครับ จริงๆ คู่นี้ดูมีอะไรน่าสนใจ บางอันนี่เอาไปผูกประเด็นเกี่ยวกับปรัชญาได้เลยนะ แต่ก็อีกนั่นแหละครับ หนังยังไปไม่ถึงจุดนั้นอีกเหมือนกัน

โดยรวมแล้วหนังถือว่าน่าดูอยู่ครับ แล้วก็มีสาระเกี่ยวกับการทำงาน, การค้นหาตัวเอง, การเดินตามความฝัน, การรู้จักผสานระหว่างความฝันและความจริง รวมถึงการยกระดับตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม จนบอกได้เลยว่าใครอยากดูหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานหรือการเรียนนี่ เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยครับ จะเสียดายก็ตรงที่หนังยังไปได้ไม่สุดนี่แหละ – ถ้าไปได้สุดนะครับ หนังจะจัดว่าทรงคุณค่าอย่างมากได้เลยล่ะ เพราะแนวทางและสาระหลายๆ อย่างนี่เหมือนเอาหลักการจาก How to หลายๆ เล่มมาขยายความเลยล่ะครับ – แต่ก็กลายเป็นว่าหนังขยายความยังไม่เต็มที่ครับ สุดท้ายถ้าอยากได้อะไรแบบเต็มๆ ก็คงต้องไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่มกันนะครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)