รู้ไหมครับว่าตอนที่ Disney Plus มาลุยตลาดสตรีมในบ้านเราน่ะ ผมแอบคาดหวังไว้ 2 อย่างใหญ่ๆ อย่างแรกคือเริ่มมีความหวังตอนเห็นทางค่ายเริ่มผลิตหนังแนวครอบครัวแบบที่ห่างหายไปนาน ก็แอบหวังว่าจะมีคอนเทนต์แนวนี้มาเรื่อยๆ โดยเฉพาะหนังคริสต์มาสน่ะนะครับ – แต่มาถึงตอนนี้ก็คงต้องปรับความคาดหวังไป เพราะดูจากความถี่และปริมาณแล้ว คอนเทนต์แนวที่ว่าก็ดูไม่ค่อยจะมีมาสักเท่าไร

อีกความคาดหวังหนึ่งก็คือหวังว่าจะได้ดูหนัง Disney เก่าๆ หนังแนวครอบครัวดีๆ พวก Pollyanna, Old Yeller, Herbie ตอนเก่าๆ ฯลฯ แล้วไหนจะหนังเก่าๆ ของค่าย Fox อีก แต่มาถึงตอนนี้ก็อาจต้องปรับความคาดหวังอีกเหมือนกัน

ไม่คาดหวัง จะได้ไม่ผิดหวัง – คงต้องเป็นแบบนั้นน่ะนะครับ

สำหรับ Noelle ก็ถือเป็นหนังวันคริสต์มาสที่ดูสนุกอีกเรื่องหนึ่งครับ เรื่องของโนเเอล (Anna Kendrick) ลูกสาวของซานตาคลอสที่คอยช่วยพี่ชายที่ชื่อนิค (Bill Hader) ให้มารับตำแหน่งซานต้าคนต่อไป แต่ปัญหาคือนิคน่ะไม่อยากเป็นครับ เขาเลยหายตัวไป ทีนี้โนเเอลเลยต้องรีบไปตามหาพี่กลับมาให้ทัน ก่อนที่วันคริสต์มาสปีนี้จะไม่มีซานต้า

รู้มาว่าที่ Anna Kendrick รับเล่นหนังเรื่องนี้ก็เพราะเธออยากรับบทในหนังแนวเทศกาลพิเศษๆ แบบนี้เพื่อจะได้เอามาเปิดดูกับครอบครัวทุกๆ ปีในช่วงเทศกาลครับ ก็เป็นเหตุผลที่น่ารักดีนะครับ และพลังสำคัญของหนังก็คือการแสดงน่ารักๆ ของเธอนี่แหละ กับบทสาวน้อยแสนสดใส อารมณ์ดีและชอบมองอะไรๆ ในแง่ดี แล้วก็แน่นอนว่าพฤติกรรมปกติๆ ของเธอในขั้วโลกเหนือ ก็ย่อมกลายเป็นพฤติกรรมสุดโก๊ะสำหรับโลกภายนอก อันนำมาสู่อะไรป่วนๆ ฮาๆ สารพัด

ผมว่าหนังโอเคในแบบของมันครับ อาจไม่ได้สุดยอดแห่งความลงตัว หรือไม่ได้ลึกซึ้งกินใจ แต่ผมว่าหนังก็มีอะไรเหล่านั้นเหยาะลงไปอย่างละนิดอย่างละหน่อยน่ะนะครับ หนังมีความเป็นแฟนตาซีสไตล์วันคริสต์มาสที่ดูเพลินอยู่ มีอารมณ์ขันสไตล์หนังคอมเมดี้ประเภทปลาผิดน้ำ ตัวละครจากเมืองเล็กมาสู่เมืองใหญ่ แล้วก็ทำอะไรแบบพาซื่อจนกลายเป็นอะไรที่เรียกรอยยิ้ม และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องราวชวนประทับใจที่ทำให้เราได้ระลึกนึกถึงหัวใจอันอบอุ่นของวันคริสต์มาส

หลายครั้งที่หนังมาพร้อมกับเรื่องทั่วๆ ไปที่บอกเล่าถึงแง่คิดง่ายๆ แต่เปี่ยมความหมาย อย่างการที่โนเอลเจอกับหนูน้อยที่เป็นใบ้กับแม่ที่ยังไม่มีงานทำของเธอ ฉากเล็กๆ แบบนี้อาจดูเป็นสูตรประจำหนังวันคริสต์มาสนะครับ แต่ผมมองว่านี่คือฉากที่ต้องมี เพราะมันมีความหมาย มีความน่ารัก และนำมาซึ้งความซึ้ง และฉากบ้านพักพิงแห่งนี้ยังสะท้อนความจริงที่ว่า สำหรับคนยากไร้แล้ว เขาจะเห็นคุณค่าของ “สิ่งที่ตนมี” ได้ง่ายกว่าคนที่ร่ำรวย คนที่พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์ศฤงคาร ที่มีข้อแม้แห่งความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ตามขีดความมั่งมีของตน ในขณะที่คนยากคนจน บางทีแค่มีที่ให้ซุกหัวนอนก็รู้สึกยินดีกับชีวิตแล้ว

ผมชอบประโยคที่ว่า “คริสต์มาสอาจไม่ได้แก้ปัญหาทุกอย่าง แต่มันให้ความหวัง” ใช่ครับ วันคริสต์มาสอาจไม่ได้แก้ปัญหาได้สารพัด อาจไม่ได้ทำให้คนจนกลายเป็นรวย อาจไม่ได้ทำให้คนป่วยกลายเป็นแข็งแรงได้ในฉับพลัน แต่หัวใจของเทศกาลแบบนี้คือการสร้างบรรยากาศดีๆ สร้างโอกาสให้คนเรากระทำดีต่อกัน ให้คนเราได้ระลึกนึกถึงกัน ให้คนเราคิดถึงตนเองน้อยลงนิดและคิดถึงคนอื่นเพิ่มขึ้นอีกหน่อย รวมถึงได้กลับไปใช้เวลากับครอบครัวที่สำหรับบางคนแล้วในหนึ่งปีอาจมีเวลาแค่เท่านี้แหละที่จะได้เจอกันแบบพร้อมหน้า (ก็เหมือนช่วงสงกรานต์ของบ้านเรานั่นแหละครับ)

หัวใจสำคัญของวันคริสต์มาสไม่ใช่แค่เรื่องของของขวัญครับ ไม่ใช่แค่เอาอะไรใส่กล่องให้กัน พอแกะกล่องแล้วก็จบข่าว – มันไม่ใช่แค่นั้น – แต่มันคือวันที่ชี้ชวนให้เราใส่ใจคนรอบตัว ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่คนในครอบครัวครับ แต่อาจหมายถึงคนรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือกระทั่งเพื่อนร่วมโลก เราสามารถแบ่งปันความปรารถนาดีให้คนรอบตัวเท่าที่กำลังเราไหว ถ้าให้เป็นทรัพย์สินไม่ได้ก็ให้เป็นความหวังดี ให้เป็นคำพูดดีๆ มิตรไมตรีที่ดี หรืออย่างน้อยแค่เราไม่ทำอะไรที่มุ่งร้ายต่อกันแค่นี้ก็นับว่าดีแล้วล่ะครับ

หนังกำกับและเขียนบทโดย Marc Lawrence ที่ดูเหมือนผมจะกลายเป็นแฟนประจำของแกไปแล้ว เพราะดูหมดทุกเรื่อง ตั้งแต่ Two Weeks Notice, Music and Lyrics, Did You Hear About the Morgans? และ The Rewrite สำหรับเรื่อง Noelle นี้ผมถือว่าเป็นงานชิ้นที่น่าจดจำของเขาครับ ความสนุกเพลิดเพลินถือว่าพอๆ กับ Music and Lyrics เลย – และหนังเรื่องนี้ยังถือเป็นหนังเรื่องแรกของ Lawrence ที่ไม่ได้มี Hugh Grant มานำแสดง

อย่างที่บอกครับว่าหนังไม่ได้สุดเจ๋ง แต่ผมว่าดูแล้วสนุก ดูแล้วได้ความสุขและ Feel Good สำหรับผมที่ชอบดูหนังวันคริสต์มาสแล้ว บางทีก็ไม่ได้ขออะไรมากหรอกครับ ขอหนังประมาณนี้ก็ได้ ที่ดูแล้วมันอิ่มเอมใจ ดูแล้วได้รอยยิ้ม ดูแล้วได้แง่คิดดีๆ ไม่ว่าจะแง่คิดที่เคยรู้แล้ว (ก็จะได้นำมาทบทวนและระลึกถึงอีก-เพราะบางครั้งเราก็อาจลืมแง่คิดดีๆ และง่ายๆ ไปอย่างไม่น่าเชื่อ) หรือแง่คิดใหม่ๆ ที่ช่วยเปิดโลกและเปิดใจให้กับเรา และหนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์สิ่งเหล่านั้นครับ

สองดาวกว่าๆ ใกล้ครึ่งครับ

(6.5/10)

===================
มีอะไรที่อยากจะสปอยล์หน่อยนะครับ
ไม่อยากทราบอย่าอ่านต่อครับ
===================

ผมชอบบทสรุปนะครับ การให้โนเอลเป็นซานต้าน่ะ เพราะหนังปูพื้นมาตั้งขนาดนี้แล้ว และจริงๆ แล้วซานต้าจะเป็นชายหรือหญิงหรืออะไรก็ตาม จุดสำคัญคือซานต้านั้นเข้าถึงหัวใจของวันคริสต์มาสหรือไม่ มีความปรารถนาดีและพร้อมทุ่มเททำเพื่อเด็กๆ หรือไม่ ถือเป็นบทสรุปที่น่ารักและเหมาะกับเรื่องราวครับ