คงไม่ต้องสาธยายยาวกับหนังเรื่องนี้ครับ นอกจากประเด็นหลักๆ ว่าผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว และผลลงเอยก็คือ “ชอบ”
ไม่คิดหรอกครับว่าวันหนึ่งเราจะชอบภาคต่อของหนังชุด The Fast and The Furious ซึ่งถ้าจะว่าไปหากหนังยังคงยืนกรานทำแต่แนวรถแข่ง+วัยรุ่นแบบเดิมๆ ผมก็อาจไม่รู้สึกสนใจจะติดตาม และดีไม่ดีหนังอาจจบลงแค่ภาค 3
แต่ทันทีที่ทีมงานเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนโทนโดยคงของเก่าที่ดีๆ ไว้ (ความเร็วแรงเร้าใจ เอารถมาถล่มเล่น เอาสตันท์มาเสี่ยงตาย) และเสริมของใหม่ให้แน่น (มีบท มีทิศทาง ตัวละครมีเป้าหมายในชีวิต มากกว่าแค่ให้มาแข่งรถชิงชัยกัน) อะไรเหล่านี้แหละครับที่มอบความสำเร็จระดับบิ๊กเบิ้มให้กับหนังชุดนี้ เพราะมันมีอะไรให้ติดตาม ตัวละครมีประเด็นให้ผูกพัน และมีเงื่อนไขมาสร้างความลุ้น อีกทั้งขอบข่ายของแอ็กชันก็ไปได้ไกลกว่าแค่เรื่องบนท้องถนน
ภาค 4 ถือเป็นตอนนำร่องแห่งความสนุกครับ พอมาภาค 5 นี่บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าทำออกมาได้มันส์สะใจแท้ มันคือส่วนผสมระหว่างหนังชุด F&F กับหนังแอ็กชันผสมโจรกรรมอย่าง The Italian Job และ Ocean’s Eleven และที่สำคัญคือผสมออกมาได้อร่อยครับ ดูแล้วมันส์มากๆ ตื่นเต้นตื่นตา โดยเฉพาะตอนท้ายที่น่าจะถือว่าเป็นฉากไล่ล่าทางรถที่มันส์และมโหระทึกสุดๆ สำหรับหนังชุดนี้
ความแข็งและความสะใจประการต่อมาคือการเกณฑ์ดาราที่เคยเล่นหนังเรื่องนี้มาหมดทุกภาคครับ ไม่ว่าจะ Vin Diesel, Paul Walker, Jordana Brewster, Matt Schulze จากภาคแรก, Tyrese Gibson, Ludacris จากภาค 2 และ Sung Kang จากภาค 3, Gal Gadot และ Tego Calderon จากภาค 4 แล้วยังได้ พี่เดอะ ร็อค Dwayne Johnson มาเสริมทัพ (รู้สึกว่าปีๆ หนึ่งเห็นหน้าแกบ่อยมาก จนเริ่มหลอนว่าแกย้ายมาอยู่แถวบ้าน 555) ตามด้วย Elsa Pataky สาวสวยที่ผมแอบปลื้มมาตั้งแต่ Beyond Re-Animator เรียกว่าดาราแน่นมากๆ แต่ละคนก็มาพร้อมคาแรคเตอร์ประจำตัว ซึ่งการที่หนังแจกแจงบทได้ค่อนข้างทั่วแบบนี้ก็ขอชม Justin Lin เลยครับ พี่แกกำกับได้อยู่หมัดจริงๆ
โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบภาคนี้มากที่สุดครับ (มากกว่าภาค 6 หน่อยหนึ่ง) รู้สึกมันพอดี ลงตัว ครบเครื่อง ทั้งความมันส์ อารมณ์ขัน ตัวละครดีๆ แอ็กชันสะใจ และยังมีเซอร์ไพรส์ให้คนดูเล็กๆ ด้วย
สองดาวครึ่งบวกๆ อยู่แล้วครับ
(7.5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Crime, Thrillers