ตอนหนังเรื่องนี้เข้าเนี่ย มาเงียบมากครับ จากเมืองมะกันนี่เงียบมาก รายได้แค่ $36.8 ล้าน ดูนิ่งพิกล มาเมืองไทยก็เข้าไม่นานอีกเช่นเคย ทั้งๆ ที่ดาราระดับ Bruce Willis ลงมาเล่นนำ ซ้ำยังได้ Richard Donner ผู้กำกับแห่ง Lethal Weapon ทั้ง 4 ภาค และ Superman ภาคแรกกับ Conspiracy Theory กับ The Omen ต้นฉบับอีก ก็เลยคิดว่าสงสัยหนังเรื่องนี้จะเข้าอีหรอบขาลงของพวกเขาจริงๆ ซะล่ะมั้ง
แต่พอเช่ามาดูเก็บตอนออกแผ่นเท่านั้นแหละ ถึงแก่ความมันส์ไปเลยครับ!
จุดแรกที่ผมประทับใจคือ Willis ครับ ตั้งแต่ฉากแรกก็เล่นเอาผมปรบมือให้แล้ว เขารับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ๊ค มอสลี่ย์ที่ดูโทรม แก่เฒ่ามากๆ อันนี้ต้องชมทีมเมคอัพครับ ทำให้โทรมถึงใจ แล้วการแสดงของ Willis ยังดูเชื่องช้า แรงไม่ค่อยมีสมบทอีกต่างหาก เพราะในเรื่องบทนายตำรวจคนนี้ค่อนข้างชรา เหมือนเสือเฒ่าน่ะครับ
มอสลี่ย์ก็ได้รับงานง่ายๆ ให้คุ้มกันพยานปากมากที่ชื่อเอ็ดดี้ บังเกอร์ (Mos Def) ที่พูดไม่หยุด จนแจ๊คเองก็ชักจะรำคาญ หน้าที่คือพาเอ็ดดี้ไปขึ้นศาลให้ทัน แค่เดินทางไปประมาณ 16 บล็อคแค่นั้นเอง
แต่มันกลับเป็นงานยากที่สุดในชีวิต เพราะมีคนคิดสังหารเอ็ดดี้ตั้งแต่บล็อคแรกๆ!
ใครบางคนได้ลงมือไล่ยิง วางแผนสังหารเอ็ดดี้จนแจ๊คเองก็แทบตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็อาศัยความเก๋าหลบหลีกมาได้ … แล้วพวกเขาจะรอดไปขึ้นศาลทันหรือไม่ เพราะคนที่หมายจะปลิดชีพเอ็ดดี้ไม่ได้มีแค่มือปืน แต่ยังมีตำรวจสีเดียวกับแจ๊คอีกต่างหาก
ถือเป็นหนังแอ็กชันที่ไม่ได้ยิ่งหใญ่อลังการ แต่ออกมาสนุกเข้มข้นเกิดคาด ที่ผมประทับใจคือบทนำ แจ๊คนี่แหละครับ แกเป็นพระเอกจริงๆ แม้หนังจะเล่าว่าในอดีตของแจ๊คก็เคยมีการรับเล็กๆ น้อยๆ บ้าง แต่พอถึงคดีสำคัญเช่นนี้เขากลับยืนหยัดสู้แบบเต็มที่
ลักษณะเขาดูเป็นเสื้อเฒ่าของแท้ เพราะตอนแรกดูหงอๆ จะหลับแหล่ ไม่หลับแหล่ แต่พอมีใครมาสะกิดคิดกัดเท่านั้นล่ะ เสือเฒ่ายังไงก็เป็นเสือ จัดการลุกขึ้นพร้อมตะปบใครก็ตามที่อาจหาญเข้ามาแหยม แบบนี้แหละที่มันส์ครับ มันทำให้คนดูลุ้นไปด้วยว่าพระเอกจะรอดไหม รอดอย่างไร และทำให้บทแจ๊คดูมีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่พระเอกจ๋าแบบพี่ Steven Seagal ที่เก่งโคตรแบบไร้คนเทียมทานได้
Mos Def ในบทเอ็ดดี้ก็ไม่เลวครับ ดูน่าสงสารเหมือนกัน ดันเป็นพยานปากเอกให้การเอาผิดเจ้าพ่อด้วย ซวยจริงๆ แต่แกก็เป็นคนดีนะครับ แม้จะปากมากไปบ้าง แต่ก็เป็นคนที่อยากทำดีตอบแทนสังคม ก็เลยอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยเขา
ส่วนดาราเจ้าอื่นอย่าง David Morse ขาประจำที่มักรับบทร้ายๆ ก็มีเป็นเพื่อนตำรวจของแจ๊คที่รับส่วยจากเจ้าพ่อที่ส่งคนมาฆ่าเอ็ดดี้ คนนี้ก็ยอดฝีมืออีกเช่นกัน เล่นบทดีก็ได้ ร้ายก็เหี้ยมและน่ากลัวจริงๆ นอกนั้นดาราสมทบก็ช่วยทำให้หนังออกมาเข้าท่าไม่น่าผิดหวัง และที่ลืมไม่ได้ในหนังของ Donner คือ Steve Kahan ดาราขาประจำในเรื่องนี้มารับบทเป็นเจ้าของภัตตาคารในเรื่อง
งานกำกับของ Donner ครั้งนี้ไม่ผิดหวังครับ หลังจากพลาดพลั้งจากงานก่อนอย่าง Timeline ที่ผมก็โอคกับหนังนะ แต่ตัวหนังก็ไม่ใช่อะไรที่ยอดเยี่ยมนัก อย่างที่บอกครับว่าพี่แกทำหนังดีๆ ไว้เยอะ มาเรื่องนี้ก็จัดได้ว่าเป็นงานสนุกๆ แอ็กชันมันส์ๆ แต่สมองไม่กลวงอีกเรื่องหนึ่งที่ดูได้ไม่เบื่อ ตัวเอกก็เก่ง ตัวร้ายก็ฉลาด แบบนี้มันเจ๋งอ้ะครับ ดูสมน้ำสมเนื้อเพิ่มความน่าติดตามขึ้นอีกเป็นกอง
ส่วนหนังเรื่องนี้เป็นแนวบู๊ที่สนุกครับ ยิงกันมันส์ เดินเรื่องเข้มข้น มีลุ้นและตื่นเต้น บทก็ค่อนข้างแน่นครับ มีการแทรกสาระประเด็นดีๆ เป็นพักๆ เช่นมนุษยธรรมของแจ๊คหรือความฝันของเอ็ดดี้ที่อยากเปิดร้านขนม ไม่รู้นะครับ มันทำให้ตัวละครพวกนี้มีมิติขึ้นมาก และเราก็อดไมได้ที่จะเอาใจช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากน้ำมือของพวกคนไร้คุณธรรมทั้งหลาย
ถ้ามีคนแบบแจ๊คและเอ็ดดี้ให้มากกว่านี้ในสังคมบ้านเรา อะไรๆ คงดีขึ้นเยอะ
ไม่ผิดหวังสำหรับคอหนังบู๊ครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Thrillers