Action

Hellboy (2004) เฮลล์บอย ฮีโร่พันธุ์นรก

Hellboy-1-v41

หนังสร้างจากการ์ตูนของ Darkhorse Comic เรื่องของจอมวายร้ายเกรกอริ รัสปูติน (Karel Roden) ได้ดำเนินการเปิดประตูมิติไปสู่โลกปีศาจเพื่อจะนำโลกเข้าไปสู่ยุคมืดตลอดกาล แต่พิธีก็ถูกขัดขวาง รัสปูตินโดนกักขังในต่างมิติ และผลจากพิธีนั้นคือ มีเด็กตัวสีแดงรูปร่างเหมือนปีศาจปรากฎตัวขึ้น

ดร.เทรเวอร์ บรูม (John Hurt) จึงได้รับเลี้ยงเด็กคนนั้นไว้ โดยให้ชื่อว่า เฮลล์บอย (Ron Perlman) จากนั้นหนังก็ตัดมาปัจจุบันครับ เมื่อพวกลูกน้องของรัสปูตินเริ่มดำเนินวางแผนการณ์ให้เจ้านายตัวเองได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ทีนี้เฮอลล์บอยและพรรคพวกก็ต้องสืบหาและตามล่าพวกปีศาจให้หมดสิ้นครับ เพราะการกลับมาของรัสปูตินคราวนี้ มีจุดมุ่งหมายจะทำลายโลกทั้งใบเลยทีเดียว

อืมม์ ผมอยากดูหนังเรื่องนี้ครับ แล้วหนังที่สร้างจากการ์ตูนนี่ผมก็ชอบอยู่แล้วล่ะเพราะจินตนาการมันสูงและแน่นอน มันน่าจะดูเอามันส์ได้ล่ะน่า

หนังมีส่วนที่ดีมากๆ คือ Effect และ เมคอัพทั้งหลาย โดยเฉพาะฝ่ามือเพลิงสีฟ้าของลิซ (Selma Blair) ที่สวยและเนียบจนไร้ที่ติ งานด้านภาพก็ดีทีเดียวครับ แต่ตัวหนังและบท กับการเดินเรื่องมันไม่ค่อยจะเข้ากัน ตัวบทค่อนข้างธรรมดาไม่ได้แปลกใหม่หรือมีเซอร์ไพรส์อะไรซักเท่าไหร่ เหมือนกับเดินเรื่องไปเรื่อยๆ เจอศัตรูก็ตีกัน แล้วก็จบ คือ ผมก็ไม่เถียงหรอกฮะว่าหนังแนวฮีโร่มันก็ต้องแบบนี้อยู่แล้ว แต่จุดแบ่งระหว่างหนังมันส์กับไม่มันส์คือ ลูกเล่นครับ ถ้าหนังมันเดินเรื่องตามสูตรที่ผมบอกอย่างเดียวโดยปราศจากลูกเล่น ความอร่อยบางประการก็จะลดลง

หนังไม่มีการขมวดปมให้น่าติดตามเลยครับ เหมือนกับเดินเรื่องไปเรื่อยๆ เท่านั้น ความสนุกตื่นเต้นไม่เจอเลย ไปๆ มาๆ ฉากที่เข้าท่าสุดก็คือตอนที่รัสปูตินทำพิธีในช่วงแรก กับ ตอนที่เฮลล์บอยไปตีกับเจ้าปลาหมึกปีศาจเป็นหนแรก นั่นแหละที่เข้าท่า พูดง่ายๆ ครึ่งแรก หนังทำได้ดีครับ มีการเปิดตัวละครและวางปมที่น่าสนใจ แต่พอถึงตอนที่เฮลล์บอยไปตามเก็บกวาดพวกปีศาจปลาหมึกในท่อ หนังเริ่มอืดแล้ว และหนังก็อืดอย่างนั้นไปจนจบเรื่อง มิหนำซ้ำศัตรูก็ตายง่ายโคตรๆ ยิ่งตัวยักษ์ท้ายเรื่องนั่นก็ … เฮ่อ ตายง่ายตายโง่ชะมัดเลยครับ มันน่าจะอึดและซัดกับพี่เฮอลล์นานๆ หน่อย แต่นี่แค่แป๊บเดียวเอง

ตกลงว่าศัตรูที่ร้ายที่สุดก็คือ เจ้าปลาหมึกที่ผมกล่าวไปนั่นแหละฮะ เพราะฟัดกับเฮลล์บอยได้นานสุดแล้วน่ะ แล้วยังทำได้มันส์ดีอีกด้วย

อีกประการ ศัตรูตายง่ายยังไม่พอ แต่ที่ผมสงสัยคือ พี่เอ๊บ (Doug Jones) มนุษย์มัจฉาน่ะครับ จู่ๆ บทก็หายไปเลย ตอนท้ายเขาไปลุยรังหัวหน้าใหญ่กัน แต่พี่แกไปกลับไม่ได้มาร่วมแจมร่วมขบวนอะไรเท่าไหร่ บทน้อยมากครับ ใช้ตัวละครไม่คุ้มเอาเลยครับ เสียดายอ้ะ ทั้งๆ ที่พี่แกน่าจะมีอะไรแจ๋วๆ อยู่

พี่ Guillermo del Toro กำกับครับ เขาเคยทำ Mimic ภาคแรกมา ก็สนุกดีครับ ส่วน Blade II แม้หลายคนจะชอบกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าลูกเล่นมันยังไม่เยอะเท่าไร มาเรื่องนี้แม้จะสนุกกว่า Blade II แต่ก็ไม่ถึงกับมันส์พระกาฬอะไร

Hellboy-2004-poster1

แต่สิ่งที่ช่วยหนังไว้มากเลยก็คือ Ron Perlman ครับ เขาคือเฮลล์บอยจริงๆ ทั้งหน้าตาท่าทาง ทั้งกวนโอ๊ยและเหี้ยมแบบน่ารักได้ครบเครื่องมาก ซึ่งก็น่าดีใจที่เขาได้มาเล่นน่ะครับ เพราะตอนแรกบริษัทผู้สร้างต้องการให้ Vin Diesel มาแสดง แต่ทว่าทั้งพี่ Guillermo และ Mike Mignola ผู้สร้างสรรค์เฮอลล์บอยขึ้นมาต่างยืนกรานเป็นเสียงเดียวว่า ต้อง Perlman เท่านั้น แล้วสุดท้ายก็เป็นไปตามนั้น ซึ่งผมว่า Perlman เหมาะกว่า Diesel อย่างยิ่งครับ เพราะแม้เรื่องทำหน้าโหดทั้งสองจะสูสี แต่เรื่องกวนตีนนี่ต้องยกให้พี่ Perlman คนเดียวครับ

ก็เป็นอีกหนึ่งหนังที่ทำตามความฝันของพี่ Guillermo แกล่ะครับ เพราะเขาชอบร่วมงานกับ Perlman มาก และอยากทำหนังที่ Perlman เล่นเป็นตัวนำ แล้วผลก็ได้มาเป็นเรื่องนี้ (คือเขาก็ได้รับข้อเสนอให้เลือกครับ หลังจาก Blade II ว่า จะทำ Blade: Trinity หรือเรื่องนี้ แล้วเขาก็เลือกเรื่องนี้โดยปริยายครับ)

ก็ยอมรับว่าหนังออกมาโอเคในระดับหนึ่งน่ะครับ เพียงแต่ลูกเล่นยังพร่องอยุ่ แต่พวกนักแสดง Effect ต่างๆ ทำได้ดี พวกปีศาจก็ออกแบบมาได้ดีครับ หม่นมืดใช้ได้ตามสไตล์การ์ตูนของ Darkhorse, ดนตรีของ Marco Beltrami ก็นับว่าถึงฟอร์ม โดยเฉพาะเพลงที่บรรเลงตอนเฮลล์บอยยืนอยู่กลางสายฝนนั่น ท่วงทำนองเศร้าแบบทอดอาลัยสไตล์วีรบุรุษดีจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกน่ะครับ มันน่าจะเพิ่มลูกเล่นหรืออะไรให้มันลื่นและแปลกใหม่หน่อย และตัวร้ายน่าจะอึดกว่านี้หน่อย หนังคงจะเจ๋งขึ้นน่ะครับ

แต่อย่างน้อยก็ถือว่าดีตามมาตรฐานครับ

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)