Action

Bait (2000) เบท ทุบแผนปล้นทองสหัสวรรษ

B00003CXNG.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056662451_

ครับ เป็นอีกหนึ่งงานกำกับของ Antoine Fuqua แห่ง The Replacement Killers เขาทำเรื่องนี้ต่อจากเรื่องที่ว่า และพอเสร็จจากเรื่องนี้ก็ไปทำ Training Day ต่อ ซึ่งสำหรับเรื่อง Bait นี้ถือว่ากระเดียดไปทางเรื่องแรกมากกว่าครับ หมายถึงความสนุกน่ะนะฮะ

Jamie Foxx ก่อนจะไปดังสุดๆ จาก Ray ก็พอกันครับ ช่วงนั้นเป็นการไต่เต้าบันไดดาวตามแบบฉบับของฮอลลีวู้ดนั่นเอง คือต้องรับงานหลากหลายน่ะฮะ ดูว่าแนวไหนเข้า ถ้าเข้าแล้วดังด้วยก็เกิดเองแหละ และเขาก็เป็นพระเอกเรื่องนี้ครับ

อัลวิน แซนเดอร์ส (Foxx) โจรกระจอกที่ถูกใช้เป็นเหยื่อล่อจับโจรระดับอัจฉริยะ แล้วยังโหดโรคจิตอีกต่างหาก ไอ้บ้าที่ว่านั่นก็คือ บริสโทล (Doug Hutchison) ที่จารกรรมทองคำมูลค่า 42 ล้านเหรียญไป งานนี้อัลวันก็ต้องเอาความฉลาดไหวพริบเท่าที่ตัวเองมีมาใช้ล่ะครับ ไหนจะต้องรับมือกับบริสโทลที่พร้อมจะฆ่าเขาและฆ่าทุกคนที่เขารักได้ ก็ยังต้องมารับมือกับ เอ็ดการ์ เคลนทีน (David Morse) เจ้าหน้าที่ผู้ตัดสินใจในแผนการณ์ล่อบริสโทลนี้

จริงๆ พล็อตนับว่าน่าสนใจไม่เลวนะครับ และ Foxx เองก็ใช่จะกระจอก คือถ้าว่ากันตามจริงแล้วดาราทุกคนในเรื่องไม่ใช่กระจอกเลยนะครับ Foxx ก็แสดงดี Hutchison ก็สบายเลยครับบทโหดแบบโรคจิตอย่างนี้ หรือจะ Morse ก็ด้วยครับ รายนี้ก็เข้มทางฝีมือ แต่กับเรื่องบทและการเดินเรื่องกลับไม่สนุกตื่นเต้นเท่าที่ควร แค่เรื่อยๆ เท่านั้น ดูไปไม่กดดันเท่าไหร่ ครั้นจะฮาก็ไม่ฮา มันลงสูตรจนเดาได้ไม่ยากเย็นน่ะครับ สไตล์มันเหมือนจะให้ฮาๆ แนวทางตอนดูนี่ผมนึกถึง Blue Streak ขึ้นมาติดหมัดเลย มันใช่อ้ะคับโจรกระจอกที่เคยร่วมงานกับโจรอีกคน แต่พอแผนไม่เป็นไปตามคาด ก็มีการซ่อนทองกัน จากนั้นพระเอกก็โดนปล่อยตัวมา ตำรวจก็มาคอยสะกดรอยตาม เพื่อจะได้รวบสองต่อ เอาทั้งทองที่โดนขโมยแล้วก็เอาวายร้ายระดับพระกาฬไปเข้าปิ้งด้วย

แต่จุดที่ Blue Streak ทำได้ดีกว่าคือมันฮาครับ ลื่นและสนุก แต่กับเรื่องนี้สถานการณ์มันไม่เชิงฮานะ แต่สไตล์หนังมันออกไปในโทนนั้น สงสัยคงไม่อยากให้หนังมันเครียดเกินไปมั้งครับ เลยหยอดน้ำตาลลงมาหน่อยให้พอขำๆ แต่ไปๆ มาๆ กลับทำให้หนังดูคล้าย Blue Streak ยิ่งขึ้นไปอีก

บอกตามตรงว่าพล็อตตอนแรกเหมือนจะน่าสนครับ แต่พอดูข้สงในแล้วมันกลายปเนยำมากกว่า ยำสไตล์จากหนังหลายๆ อันลงมาร่วม อย่าง Blue Streak ก็หนึ่งล่ะครับ หรือตัวเอกก็เหมือนจะให้กลายเป็นแบบพิมพ์นิยม แบบพวก Eddie Murphy นั่นคือต้องผิวดำและทะเล้น มีไหวพริบ ซึ่งถ้าว่ากันในจุดนี้ ผมว่า Foxx เขาก็ทำได้ดีนะครับ เพียงแต่หนังน่าจะเน้นไหวพริบของเขามากๆ หน่อย ให้เราได้ลุ้นได้เอาใจช่วยเขาไป คือต้องใส่เรื่องวุ่นวายมาให้พระเอกเราแก้เยอะๆ น่ะครับ มันจะได้น่าดูไปเรื่อยๆ แบบ 24 ไรเงี้ย ใส่ลงไปเอาให้ตายเลยครับ คนดูจะได้ลุ้น พักบ้างพอหมอปากหมอคอ แต่ในหนังกลับไม่เข้มข้นอย่างที่บอกเท่าไหร่ เหมือนให้พักนานไปนิด จนกว่าจะถึงจุดลุ้นคนดูก็หมดไฟแล้ว นึกออกมั้ยครับ

เอาปเนว่าหนังไม่ถึงเครื่องอย่างที่ควรครับ ออกมาเรื่อยๆ นักแสดงแม้จะใช้ได้ แต่เรื่องราวมันไม่มีพลังพอจะให้คนอยากดูจนจบ เพราะยังไงมันก็เดาได้ จุดลุ้นก็น้อยนะครับ แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าผู้กำกับ Fuqua เขาจะมีความสามารถในเรื่องสไตล์ภาพประมาณหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เด่นเท่า Michael Bay ซึ่งจะว่าไปชะตากรรมของผู้กำกับที่เก่งสไตล์ภาพนี่ก็มักจะครือๆ กันครับ คือตัวหนังหน้าหนังน่ะสบาย ดูได้ไม่มีปัญหา แต่บทนี่แหละที่จะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตาย ตัดสินว่าหนังจะอยู่หรือจะไป เพราะเรื่องภาพอยู่ตัวไงครับ แต่ถ้าบทอ่อนก็จบกันพอดี แม้ภาพจะดีแค่ไหน แต่เรื่องไม่น่าสนใจใครจะมัวมามองแต่มุมกล้องล่ะครับ มันต้องไปด้วยกันหมดน่ะแหละ

หนังเคยฉากมูฟวี่ออนทรีไปแล้วด้วย ก็คงไม่ว่าอะไรมากครับ เอามาพูดให้ฟัง เล่าเนื้อเรื่องและความรู้สึกที่ดูให้ฟังหน่อยๆ ก็พอ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่สนุกจนต้องติดตามนะครับ แค่เรื่อยๆ ถาจะดูผมว่าไปหา Blue Streak มาดูดีกว่าครับ มันส์และฮากว่ากันเยอะ

สองดาวพอครับ

Star21

(6/10)

Untitled03746

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.