ชื่อไทยของหนัง Fright Night เรื่องนี้น่าจะคุ้นหูไม่น้อยนะครับ “คืนนี้ผีมาตามนัด” ผมเองก็ได้ยินชื่อก่อนจะได้ดูเหมือนกัน ได้ยินมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่ได้ดู เพราะกลัวครับ
แต่พอโตขึ้นมาหน่อยก็ชักวิชาแก่กล้าอยากดูขึ้นมา เพราะผมเองก็ชอบนะปีศาจแวมไพร์น่ะ จนกว่าจะได้ดูก็โน่นเลยครับ สมัย UTV ดูทาง AXN
แล้วผลที่ได้รับคือ ความหฤหรรษ์แบบเต็มพิกัด
ไปดูได้เลยครับคอหนังสยองทั้งหลาย ยิ่งคนรักหนังแวมไพร์ล่ะห้ามพลาด สนุกมาก มันส์ครับ มันส์จริงๆ ผสมกันลงตัวสุดๆ ทั้งความสยอง อารมณ์ขันและบรรยากาศ ยิ่งไปกว่านั้นคงต้องยกให้กับเนื้อเรื่องที่ถือว่าใหม่เอามากๆ ในยุคที่หนังฉายหรือแม้แต่ปัจจุบันมันก็ยังถือว่ามีความสดอยู่ไม่เสื่อมคลาย
เรื่องของเจ้าหนุ่มชาร์ลี บริวสเตอร์ (William Ragsdale) วัยรุ่นที่ชอบเรื่องลึกลับและคลั่งไคล้ในเรื่องผีดิบ อยู่มาวันหนึ่งก็มีเพื่อนบ้านรายใหม่ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ข้างบ้านของเขา ซึ่งทุกอย่างน่าจะไม่มีปัญหา จนกระทั่งชาร์ลีเริ่มเห็นอะไรแปลกๆ ในคฤหาสน์ มีเสียงกรีดร้องมาจากที่นั่น และแถวบ้านเขาก็มีเริ่มมีข่าวเด็กสาวหายไปอีกด้วย
เอ… หรือคนข้างบ้านเขาจะเป็นแวมไพร์?
แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขาครับ ไม่ว่าจะแม่ (Dorothy Fielding), เอมี่ ปีเตอร์สัน (Amanda Bearse) แฟนสาว หรือแม้แต่ เอ็ด ทอมป์สัน (Stephen Geoffreys) เพื่อนซี้จอมก่อกวนของเขา มิหนำซ้ำพอไปแจ้งความก็โดนหาว่าบ้าซะอีก (ก็ใครจะไปเชื่อล่ะครับว่ามีแวมไพร์ย้ายเขามาข้างบ้านน่ะ)
ที่แย่คือ สิ่งที่เขาสงสัยน่ะมันจริงครับ นายเจอร์รี่ แดนดริจด์ (Chris Sarandon) เพื่อนบ้านของชาร์ลีคือแวมไพร์อายุพันปีที่สุดจะร้ายกาจ และที่แย่สุดๆ ก็คือ มันรู้ว่าชาร์ลีรู้
เอาล่ะสิครับงานนี้ชาร์ลีโดนเล่นแน่นอน แล้วเขาจะรับมือจอมแวมไพร์ตนนี้ได้ยังไง เพราะเจอรรี่ไม่ได้มีเป้าหมายแค่ชาร์ลี แต่ยังรวมไปถึงทุกคนในชีวิตของเขาไม่ว่าจะเพื่อน แม่ หรือแฟน เรื่องจะเป็นไงต่อไปโปรดติดตามเลยครับผม
หนังมันส์จริงๆ ครับ ผมชอบสุดๆ ดูสนุกครับ มันครบเครื่องทั้งบรรยากาศที่มืดทึม ครบสูตรหนังผีสมัยเก่าที่ต้องมีคฤหาสน์เก่าๆ มีฉากกลางคืนที่ชวนวังเวง มีควันไก่ย่างฟุ้งไปทั้งฉาก ครบอารมณ์จริงๆ
นอกจากนั้นก็ต้องยกให้กับเรื่องราวครับ ที่ถือว่าเขียนมาดี มันดูค่อนข้างจริงแบบเกิดขึ้นได้ ไม่เหมือนหนัง Dracula ก่อนๆ ที่เหตุมักไปเกิดสมัยเก่าๆ หรือไม่ก็ไปเกิดที่ทรานซิลเวเนีย แต่นี่มาเกิดในเมืองครับ ข้างบ้านเลยล่ะ เหมือนเป็นการดึงเรื่องผีดิบมาใกล้ตัวคนดูมากขึ้น อารมณ์สยองก็เริ่มไหลมาแล้วครับ แล้วนี่ตัวหนังเองยังน่ากลัวพอได้ บรรยากาศมันชวนผวา ไม่น่าไว้ใจตลอด
ส่วนการเดินเรื่อง การเขียนบทก็ต้องยกนิ้วให้ Tom Holland นี่แหละครับ เหมาหมดทั้งเขียนบทและกำกับ บทก็ชวนติดตามครับ มันลุ้นจริงๆ ว่าชาร์ลีจะเอาตัวรอดได้ยังไง และหนังยังเพิ่มความมันส์ให้เป็นสองเท่าโดยการใส่ตัวละครที่ชื่อว่า ปีเตอร์ วินเซนต์ลงไป
ปีเตอร์นั้นคือนักแสดงตกอับครับ ในอดีตนั้นเขาโด่งดังด้วยบทนักล่าแวมไพร์ แต่มาหลังๆ งานน้อยก็เลยโดนลดขั้นมาเป็นแค่พิธีกรรายการหนังรอบดึก เงินแทบไม่พอยาไส้ แล้วชาร์ลีเองก็เป็นแฟนรายการตัวยงของปีเตอร์ ทำให้พอเข้าตาจน พอโดนเจอร์รี่ไล่ล่ามากๆ เขาเลยไปหาปีเตอร์เพื่อขอคำปรึกษาซะเลย
แต่ตัวปีเตอร์นั้นเป็นแค่นักแสดงนี่ครับ หนำซ้ำยังไม่เชื่อเรื่องผีอะไรด้วย การสู้กับแวมไพร์ก็เคยแต่ในหนัง แต่นี่ดันต้องมาเจอของจริง พี่แกเลยคอยแต่จะโกยหนีอย่างเดียว แต่พอถึงที่สุดแล้วมันหนีไม่ได้ครับ ผีร้ายมันล่าไม่เลิก เขาเลยต้องมาร่วมมือกับชาร์ลีเพื่อสู้กับจอมผีซักตั้ง
บอกตรงๆ เลยว่าหนังมาสนุกขึ้นเพราะตัวละครปีเตอร์ วินเซนต์นี่แหละครับ คนที่รับบทก็คือ Roddy McDowall ดาราเก๋าฝีมือเยี่ยม กับบทนักแสดงขี้กลัวที่ต้องมาเจอผีของจริง หนังทั้งมันส์ทั้งฮาก็เพราะเขาเลยครับ เอาแค่ตอนท้ายที่ชาร์ลีกำลังจะลุย แต่พี่แกเดินไปหยุดไปก็ฮาแล้วล่ะครับ McDowall เล่นได้ดีมากไม่ว่าจะตอนแสดงท่ากลัว และยิ่งเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในฉากที่เขาอึ้งจนแทบขยับตัวไม่ได้เมื่อเจอผีของจริง กลัวจนน้ำตาคลอ ผมรับประกันฟันธงเลยว่าท่านต้องรักตัวละครตัวนี้แน่ๆ ครับ คือลุงเขาน่ารักมาก แม้จะออกแนวขี้ขลาด แต่ก็บวกด้วยความฮาและอ่อนโยน
ส่วนดาราเจ้าอื่นก็สบายหายห่วงครับ Sarandon ก็สบายมากกับบทผีร้ายที่โหดเหี้ยมสุดๆ เอาแค่ตอนธรรมดาแกก็ดูน่ากลัวพอแล้ว ยิ่งตอนเมคอัพหน้าเป็นค้างคาวผีล่ะไม่ต้องพูดจากันเลยครับ ถ้าเจอล่ะผมวิ่งอย่างเดียว แต่ตอนเป็นคนนี่ก็ยอมรับนะครับว่าแกก็ดูมีเสน่ห์อยู่ ซึ่งนับว่าถูกต้องครับ แวมไพร์สไตล์นี้มันต้องดูมีแรงดึงดูดบางอย่าง
แล้วเขายังครีเอทด้วยนะครับ ในหนังเราจะเห็นเจอร์รี่กินแอปเปิ้ลด้วย ซึ่งเป็นไอเดียของ Sarandon เองที่ศึกษาเรื่องตำนานแวมไพร์ก่อนแสดง แล้วก็ได้ข้อสรุปว่าแวมไพร์สามารถแปลงเป็นค้างคาวได้ ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกหากค้างคาวจะกินผลไม้ – เข้าใจคิดดีครับ
Ragsdale ก็ดูเป็นหนุ่มหน้าใสซื่อๆ ได้ดีครับ และดูฉลาดพอที่จะสู้กับผีได้ด้วย, Bearse ก็ดูสวยดี กับ Geoffreys ในบทเพื่อนตัวแสบ สองรายนี้เป็นแนวบทสมทบครับ แต่ก็ช่วยให้หนังลุ้นมากขึ้นเหมือนกัน
หนังดูเพลินนะครับ คือมันก็สยองน่ะแหละ แต่พอดีผมชอบแนวนี้ก็เลยสนุก ใครขวัญอ่อนก็อาจจะมีกลัวบ้างน่ะนะครับ หรือต่อให้ท่านไม่กลัวไม่สะทกสะท้าน ท่านก็ยังสามารถสนุกกับเนื้อเรื่องมันส์ๆ ได้อยู่ดี ช่วงท้ายตอนตีกับเจอร์รี่นี่ก็ลุ้นกันเต็มสูบครับ เพราะศัตรูไม่ได้มีแค่เจอร์รี่เท่านั้น สมุนอื่นๆ ของเจอร์รี่ก็เพิ่มความลุ้นความสยองได้ไม่เลวทีเดียว
ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างดีตอนออกฉายครับ หนังทำเงินไป $24.9 ล้าน (จากทุนราวๆ $9.5 ล้าน) แล้วก็มาโกยต่อตอนออกวีดีโอ ตามด้วยมีภาคต่อออกมาครับ
สรุปว่าคุ้มครับ สนุกมันส์ สยองตื่นเต้นกำลังพอดีพอเหมาะ หนังไม่ยาวเกินไปครับแค่ 106 นาทีเอง ถือเป็นหนังสู้กับแวมไพร์ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าลองว่าชอบแนวนี้ผมว่าไม่เสียหลายเลยครับที่จะดู
เอาแค่การแสดงของ Roddy McDowall ก็คุ้มเกินคุ้มแล้วล่ะครับ
สามดาวเต็มไปเลย
(8/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Horror, Vampire Movies