Drama

Scent of a Woman (1992) ผู้ชาย หัวใจไม่…ปอกเปลือก

Scent_of_a_Woman

ภาพยนตร์คุณภาพอีกเรื่องที่ได้นักแสดงโคตรเก่งอย่าง Al Pacino มาเล่น และเรื่องนี้พี่แกก็คว้าออสการ์ไปได้หลังจากที่คั่วมาตั้งนาน กับบทผู้พันแฟรงค์ สเลด ชายตาบอดอารมณ์ร้ายผู้ที่ออกเดินทางไปตระเวนกรุงกับ ชาร์ลี ซิมส์ (Chris O’Donnell) เด็กหนุ่มหน้าอ่อน ที่รับงานดูแลผู้พันแฟรงค์ และขณะเดียวกันก็ต้องคอยมารองรับอารมณ์อันโคตรจะแปรปรวนของเขาด้วย

หนังจะว่าไปไม่มีอะไรเลยนะครับ เนื้อหามันเดินไปเรื่อยๆ จากที่นึงไปอีกที่นึง ซึ่งหนังจำพวกนี้ บทสนทนาต้องน่าสน การแสดงต้องถึง และสถานการณ์ต้องน่าสนใจ และมีแง่คิดที่เหมาะควร ผลงานจึงจะออกมาดีได้

และหนังเรื่องนี้ ก็ดันทำได้สุดยอดในทุกองค์ประกอบที่ผมบอกไปหมดเลยครับ

ก่อนอื่น ก่อนทุกสิ่ง ก่อนทั้งปวง ต้องยกความชอบให้กับการแสดงที่ยอดเยี่ยมจนผิดมนุษย์มนาของ Pacino ทำให้หนังน่าติดตามไปได้ตลอด เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าลุงแกจะทำอะไรบ้าๆ ขึ้นมาบ้าง จะไปหาเรื่องกับชาวบ้านเมื่อไหร่ หนังทั้งเรื่องลุงแกครองได้อยู่จริงๆ ครับ นี่ถ้าไม่ได้ออสการ์ผมคงเซ็งน่ะครับ เพราะเล่นได้ดีมหาดีขนาดนี้

แล้วพี่แกต้องมาเล่นเป็นคนตาบอด อีกนะครับ แล้วท่าทางลุงเขาก็ดูเป็นคนตาบอดจริงๆ และยิ่งไปกว่านั้นตามปกติพอเล่นเป็นคนตาบอด ตามันย่อมต้องนิ่ง ต้องขยับไปไหนไม่ได้มากจริงไหมครับ ดังนั้นการจะแสดงอารมณ์ออกมาทางแววตานี่น่าจะเป็นไปไม่ได้

แต่ลุงแกทำได้ครับ … คือ ลุงทำได้ยังไงอ้ะ เวลาลุงแกจะอาละวาดที ดวงตาตรงที่มันควรจะบอดและนิ่งดันผลุบแววบางอย่างขึ้นมา บ่งบอกอารมณ์ ทั้งๆ ที่ดูดีๆ แล้วตามันก็ไม่ได้เคลื่อนไปไหน เออ ลุงครับ ลุงจะสุดยอดไปไหนนี่ เล่นได้ดีจนน่าขนลุกเลย

นอกจากการแสดงระดับเทพเจ้าของลุง Al แล้ว Chris O’Donnell ก็เป็นอีกรายที่แสดงได้ดีมากๆ เขาแม้จะไม่เด่นเท่าลุง Al แต่ก็ไม่โดนลุงแกข่มนะครับ ตีคู่ไปได้ ซึ่งก็ต้องชมล่ะฮะ เพราะลองมาเล่นคู่กับดารารุ่นนี้แล้วไม่ถูกข่มจนหายไปนี่ แสดงว่าฝีมือเฉียบในระดับหนึ่งแล้วล่ะครับ ยิ่งฉากตีกับผู้พันช่วงท้ายๆ นี่ โคตรธรรมชาติ ฉากนั้นนี่เขาน้ำตาไหลลงมา แต่แววตายังสู้อยู่แบบกลัวๆ น่ะครับ ปากเปิกก็ดันสั่นจริงๆ ซะอีก

ใครที่ชอบดูหนังที่นักแสดงแสดงกันแบบเทพๆ ล่ะก็ ขอความกรุณาครับ อย่าพลาดเรื่องนี้เป็นอันขาดเชียว อันนี้ขอร้องเลยครับ

ส่วนเนื้อหานั้น ว่ากันตรงๆ คือไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่คือสถานการณ์นำพาไป แต่ด้วยพลังการแสดงเด็ดๆ บวกกับฝีมือของผู้กำกับ Martin Brest ที่คุมโทนหนังได้อย่างดี เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ทุกภาคส่วนผสมผสานกันอย่างกลมกล่อมหนังเลยอกมาเด็ดในเด็ด ยอดในยอดแบบนี้น่ะครั

ผมพูดออกจะดูเว่อร์นะครับ แต่ก็เป็นการเขียนไปตามที่ผมคิดน่ะครับ ดูแล้วมันดีจริงๆ ถึงจริงๆ ก็เลยขอว่าตามนั้นไป หนังน่าติดตามมากๆ น่ะครับ เป็นหนังชีวิตที่ยอดเยี่ยมและทรงพลังมากๆ อีกเรื่องหนึ่งในโลกภาพยนตร์ สาระก็มีตลอดครับ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิต การรู้จักประนีประนอมต่อผู้อื่น ตัวละครผู้พันสเลดกับชาร์สนั้น เป็นเหมือนมีความสุดโต่งของกันและกันครับ คนนึงก็โคตรเอาตัวเองเป็นใหญ่ เอาแต่ใจและตัวเองถูกตลอด ส่วนอีกคนก็อ่อน ยอมตามชาวบ้านตลอดเวลา แต่ทั้งคู่เหมือนกันประการหนึ่ง คือ เป็นคนไม่ยอมแพ้ครับ ไม่ยอมทำอะไรที่ฝืนต่อความรู้สึกตนเอง แม้ผลมันจะเลวร้ายยังไงก็ตาม แต่ถ้าตนเองคิดแล้วว่าจะไม่ทำ ก็จะไม่ทำเด็ดขาด

เด็ดเดี่ยวแบบนี้ หมื่นทิพ ขอคารวะครับ

เรื่องนี้เข้าข่ายต้องดูเลยครับ ผมว่าท่านต้องได้อะไรจากหนังเรื่องนี้กลับไปแน่ๆ ออ อีกอย่าง หนังถ่ายทอดบรรยากาศสถานที่ต่างๆ (ส่วนใหญ่ก็จะในนิวยอร์ค) ออกมาได้อย่างนุ่มนวลชวนชมและกลมกล่อมสุดๆ เลยครับ ทุกสถานที่ดูมันอบอุ่นยังไงก็ไม่ทราบ ไม่รู้นะครับ ถ้าจะให้ใครซักคนมาทำหนังโรแมนติกซักเรื่อง ที่สามารถถ่ายทอดความอบอุ่นสไตล์หนังเอเซียได้ล่ะก็ ผมขอเลือกพี่ Martin Brest เลยครับ เพราะสังเกตมาหลายเรื่องแล้ว ที่เป็นงานของเขาน่ะ Beverly Hills Cop ก็ใช่ หรือ Meet Joe Black ก็ใช่เช่นกัน แม้แต่หนังที่คนสับบ่นกันอย่าง Gigli ก็เถอะ แม้ตัวหนังจะไม่โอ แต่บรรยากาศถือว่ายังได้อยู่ครับ – ถ้าพูดถึงเรื่องอบอุ่นๆ นี่พี่แกทำได้ดีคนนึงเลยครับ และเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

ในแง่รายได้ก็ดีใจครับที่หนังทำเงินใช้ได้ ทำไป $134 ล้านจากทั่วโลก ส่วนทุนสร้างก็ $31 ล้านครับ กำไรชัดเจน

ถ้าจะสุดยอดขนาดนี้ มันต้องสี่ดาวครับ

Star41

(9/10)