Day Shift เป็นหนังดูง่าย เล่าง่าย เขียนง่ายครับ สรุปสั้นๆ ว่าเป็นหนังแอ็กชันล่าแวมไพร์ที่ดูได้เพลินๆ เอามันส์เป็นหลัก จัดว่าโอเคตามมาตรฐานของหนัง Netflix น่ะครับ
Day Shift เป็นหนังดูง่าย เล่าง่าย เขียนง่ายครับ สรุปสั้นๆ ว่าเป็นหนังแอ็กชันล่าแวมไพร์ที่ดูได้เพลินๆ เอามันส์เป็นหลัก จัดว่าโอเคตามมาตรฐานของหนัง Netflix น่ะครับ
Prey ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหนังที่เดินเรื่องแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ลูกเล่นไม่ไฮโซ คอนเซปต์ไม่ใหญ่โต ไม่ทะเยอทะยานสร้างจักรวาลหรือภาคต่อ แต่ทำออกมาได้สนุกดูเพลิน ชวนติดตามไปจนจบได้
The Gray Man อาจไม่ถึงขั้นสุดมันส์ แต่ก็สนุกดีนะครับ ดูเพลินตอบโจทย์บันเทิงได้ไม่เลว
ถ้าดูจากผลลัพธ์แล้ว Morbius ถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เดินตามสูตรจนออกมาธรรมดามากๆ ครับ ชนิดที่หนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Superman ภาคแรกที่เก่ากว่า 40 ปีมาแล้วยังดูมีอะไรมากกว่า
นั่งดู Stranger Things ปี 4 จบตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ลงสตรีม 2 ตอนสุดท้ายครับ ตอนแรกกะดูจบแล้วจะร่ายเลยแบบที่ทำทุกปี แต่พอดูจบปีนี้แล้วก็บังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมอยู่ในใจ จนผมตัดสินใจทิ้งความรู้สึกไว้หนึ่งคืน ให้ความคิดตกตะกอนเรียงตัวว่าตกลงแล้วผมรู้สึกอย่างไรกับซีซั่นนี้บ้าง
สำหรับผมแล้ว การได้เห็นลุง Rowan Atkinson มาทำท่ายึกยักยึกยือพร้อมด้วยสารพัดพฤติกรรมเพี้ยน แค่นี้ก็ได้รอยยิ้ม+ความผ่อนคลายแล้วครับ
The Man from Toronto หนังสไตล์คู่หูคู่ต่างครับ Kevin Hart กับ Woody Harrelson มาเจอกัน รายแรกก็พล่ามไม่หยุดฉูดไม่อยู่ ส่วนรายหลังก็ออกแนวขาดโหด ซัดชาวบ้านทั่วสารทิศ
บางครั้งการดูหนังด้วยความเข้าใจ มันก็ให้ความรู้สึกที่ดีเหมือนกันนะครับ ^_^
Chip ‘n Dale: Rescue Rangers เป็นหนึ่งในหนังที่ผมขำหนักมากในปีนี้ครับ คงเพราะหนังถูกเส้นผมพอดี สารพัดมุกในหนังมันเข้าเป้าเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผมได้แบบเป็นกอบเป็นกำ
จะว่าไปแล้ว Interceptor ก็คือหนังที่เอาสูตรสำเร็จสไตล์ Die Hard มาปรุงใหม่อีกรอบครับ (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว) นั่นคือมีผู้ก่อการร้ายอะไรสักอย่าง บุกยึดอะไรสักอย่าง เพื่อทำอะไรสักอย่าง (ที่ไม่เป็นผลดีต่อผู้คน) แล้วก็จะต้องมีตัวเอกเก่งๆ สักคนหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อต่อสู้ขัดขวางไม่ให้พวกมันทำได้ดั่งใจ