
5555 ผมหยุดไม่ได้ครับ หยุดไม่ได้จริงๆ เจอหนังพี่ซีเก้าที่ไรมือมันจะพาไปทุกที สติมันจะหลงๆ ครับ รู้ตัวอีกที แผ่นพี่แกก็มาอยู่ในมือผมแล้วครับ
5555 ผมหยุดไม่ได้ครับ หยุดไม่ได้จริงๆ เจอหนังพี่ซีเก้าที่ไรมือมันจะพาไปทุกที สติมันจะหลงๆ ครับ รู้ตัวอีกที แผ่นพี่แกก็มาอยู่ในมือผมแล้วครับ
แล้วเขาก็กลับมาครับ เคซี่ย์ ไรแบ๊ค ต้องมาเจอกับผู้ก่อการร้ายอีกครั้ง ระหว่างที่เขากำลังนั่งรถด่วนโดยสารไปกับซาร่าห์หลานสาวคนสวยของเขา (Katherine Heigl) งานนี้พี่แกเลยไล่หักกระดูกเหล่าร้ายตั้งแต่หัวยันท้ายขบวนรถเลยทีเดียว แต่ใครจะชนะผมคงไม่ต้องบรรยายล่ะนะครับ
พี่ซีเก้ากับบทบาทที่ดังและดีที่สุดของเขาครับ เป็น เคซี่ย์ ไรแบ็ค พ่อครัวบนเรือประจัญบานที่เหมือนไร้พิษสง แต่จริงๆ แล้วเขาคือยอดฝีมือครับ เป็นหน่วยซีลเก่าด้วย และพอดีมีผู้ก่อการร้ายยึดเรือลำที่เคซี่ย์ทำงานอยู่ (ผู้ร้ายนำโดย Tommy Lee Jones) ทำให้เคซี่ย์ต้องต่อกรกับพวกมันและยึดเอาเรือคืนมาให้ได้
พี่ซีเก้ากับบทตำรวจอีกรอบนึงแล้ว […]
จอห์น แฮทเชอร์ (พี่ซีเก้านั่นเองแหละครับ) เจ้าหน้าที่ DEA ที่ต้องปราบปรามพวกค้ายา และงานนี้เขาต้องเจอกับวายร้ายจากจาไมก้า ที่ทั้งโหดและอำมหิต ฆ่าคนไม่กระพริบตา แล้วยังมีอำนาจวูดูเป็นเครื่องมือทำชั่วอีกดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือก นอกจาก นั่งไล่หักกระดูกพวกมันครับ
พี่ซีเก้า (ขอเรียกแบบนี้ละกันนะครับ มันติดปากแล้วน่ะ ผมชอบเรียกแกว่า พี่สตีเว่น ซีเก้า นอกราชการ 555) กับหนังเรื่องที่ 2 ในบท เมสัน สตอร์ม นายตำรวจยอดฝีมือที่ไปสะดุดตอเจอวายร้ายระดับสูงเข้า เขาเลยโดนสั่งเก็บและต้องสูญเสียภรรยากับลูกชายไป ส่วนตัวเขาเองต้องโคม่า นอนซมอยู่หลายปีทีเดียว
หนังเรื่องแรกของพี่ Steven Seagal กับบท นิโก้ ทาสโคนี่ นายตำรวจที่ต้องมารับมือกับเหล่าร้ายตามสูตรน่ะแหละครับ แต่ด้วยการกำกับที่เข้าท่าของ Andrew Davis (ซึ่งมาจับงาน Undersiege และ The Fugitive ในเวลาต่อมา) พร้อมด้วยลีลาหักกระดูกที่ค่อนข้างเจ๋ง ทำให้ตัวหนังน่าติดตามพอสมควร ไม่น่าเบื่อน่ะครับ แต่ก็ไม่ได้สุดยอดอะไรนะครับ ทว่าอย่างน้อย นี่ก็เป็นผลงานอีกชิ้นที่สนุกพอใช้ของ พี่ Seagal เค้า
นี่คือ ต้นฉบับต้นเรื่องของหนังชุด Buffy ครับ เป็นหนังโรงที่เขียนบทโดย Joss Whedon (ผู้คิดคาแรคเตอร์นี้ แล้วต่อมาพี่แกก็เอาไปเสนอ Fox ขยายเป็น Series ให้พวกเราได้ดูกันตั้ง 7 ปี แล้วยังแตกออกมาเป็นซีรี่ส์ Angel อีก 5 ปีแน่ะ)
บอกก่อนเลยครับ ว่านี่ไม่เชิงว่าจะเป็นหนังบู๊นักหรอก มันออกจะเป็นแนวชีวิต + คันทรี่ๆ (เพราะเผอิญช่วงนั้นพี่ Steven Seagal แกกำลังอินกับอารมณ์นั้นอยู่น่ะครับ)
เรื่องนี้สร้างเสร็จปุ๊บ ก็ถูกส่งลงวีดีโออย่างรวดเร็ว ก็เป็นช่วงขาลงของพี่ Steven Seagal เขาแล้วล่ะครับ