ตอนดูจบผมอุทานขึ้นมาทันทีว่า “พระเจ้า หนังอะไรกันนี่”
ตอนดูจบผมอุทานขึ้นมาทันทีว่า “พระเจ้า หนังอะไรกันนี่”
ในบรรดาหนังชุดคนตัดคนทั้ง 3 ภาค กระผ้มชอบภาคนี้สุดๆ เลยครับ แฮะๆๆ เพราะมันฮา ต๊องได้เข้าทางผมดี
เหล่าเซียนกลับมาตัดกันอีกรอบครับ ซึ่งความสนุกก็ยังมีอยู่ เพียงแต่อาจจะลดระดับจากภาคแรกลงไปพอสมควร
ทีนี้สลับมาหนังจีนบ้างล่ะนะครับ กับยอดภาพยนตร์ที่จัดว่าเป็นต้นแบบของหนังแนวเซียนพนันยุคใหม่ของฮ่องกง จากเดิมที่หนังแนวพนันมักจะเดินเรื่องแบบเนิ่บๆ หรือไม่ก็เน้นดราม่า (แบบหนังชุดชื่อดังในอดีตอย่าง คมเฉือนคม) ก็กลายมาเป็นหนังเซียนไพ่สุดมันส์ที่แข่งกันแบบเร้าใจ งัดกลยุทธ์มาเฉือนกัน ผสมด้วยแอ็กชันและความขำ
หนังสนุกยุคเก่าของ โจวซิงฉือ ที่ได้ผู้กำกับอารมณ์ดีอย่าง หวังจิ้ง (เจ้าตำรับ คนตัดคน) มาจัดการละเลงความฮา ซึ่งบอกตรงนี้เลยครับว่าฮาโคตรๆ ผมล่ะชอบสุดๆ และถือเป็นหนังเรื่องแรกที่แนะนำให้ผมรู้จักเฮียโจวแบบเต็มตัวน่ะครับ
นี่เป็นหนังผีจีนเรื่องหนึ่งในความทรงจำของผมเลยครับ เพราะเคยได้ไปดูเรื่องนี้ในโรง จำได้เลยว่าไปดูที่โรบินสัน ดอนเมือง (ที่ตอนนี้เป็นบิ๊กซี สะพานใหม่ไปแล้วน่ะนะครับ)
เบอร์ตัน (David Anders) และ วิคกี้ (Kandyse McClure) คู่รักที่เกิดขับรถหลงทาง เลยพยายามเข้าไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่พวกเขาพบกลับเป็นเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ แกทลิน และที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเด็กที่พร้อมจะจับพวกเขามาบูชายัญในทุ่งข้าวโพดได้ทุกเวลา!
ภาคต่อที่มาพร้อมนักแสดงชุดใหม่ (ตามฟอร์มของหนังภาคต่อที่ทำลงแผ่นเลย) ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาคแรก นอกจากเป็นเรื่องของสาวน้อยที่รักในกีฬาเซิร์ฟบอร์ดเหมือนกัน
ผู้กำกับ Sam Firstenberg และ นักบู๊ Michael Dudikoff จับมือกันอีกครั้งในภาพยนตร์แอ็กชันซึ่งผมว่าสนุกนะครับ ฉากบู๊ ลีลาการต่อสู้ และการไล่ล่าถือว่าทำได้มันส์ทีเดียว
ค้างคามานาน ก็ขอรีวิวให้หมดชุดเลยนะครับ กับ Chidren of the Corn เด็กนรกแห่งทุ่งข้าวโพด ซึ่งนี่ก็เป็นภาค 7 แล้วนะครับ