**ที่ผมเขียนนี้ไม่เชิงเป็นรีวิว แต่ออกแนวรำพึงมากกว่า และน่าจะสปอยล์สำหรับใครหลายๆ คน หากไม่อยากทราบก็ข้ามบทรำพึงนี้โลดเลยนะครับ (5555) แต่หากอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้น่าดูไหม… ลองเหลือบดูดาวที่ผมให้ก็แล้วกันครับ ^_^ **
**ที่ผมเขียนนี้ไม่เชิงเป็นรีวิว แต่ออกแนวรำพึงมากกว่า และน่าจะสปอยล์สำหรับใครหลายๆ คน หากไม่อยากทราบก็ข้ามบทรำพึงนี้โลดเลยนะครับ (5555) แต่หากอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้น่าดูไหม… ลองเหลือบดูดาวที่ผมให้ก็แล้วกันครับ ^_^ **
ผมตกหลุมรัก Before Sunrise ตั้งแต่ตอนดูรอบแรกเมื่อ 17 ปีก่อน ^_^
Demonic จัดเป็นหนังสยองว่าด้วยบ้านผีสิงที่อาจไม่ได้มีอะไรสดใหม่หรือเข้มข้นมากมาย แต่ถ้าใครเป็นคอหนังแนวนี้ แล้วดูแบบไม่คาดหวัง ผมว่าหนังก็ตอบโจทย์ด้านความสยองได้ในระดับหนึ่งครับ
Jurassic Hunters หรือชื่อที่ใช้ในอเมริกาว่า Cowboys vs Dinosaurs เนื้อเรื่องประมาณว่าอุบัติเหตุในเหมือง พอเหมืองถล่มพังก็มีไดโนเสาร์หลุดออกมา แล้วมันก็บุกเมืองไล่ฆ่าคน ทำให้ชาวเมืองต้องหาทางสู้กับมัน
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่า The Marine 4: Moving Target เป็นภาคที่โอเคที่สุดในหนังชุดนี้ครับ ^_^
The Marine 3: Homefront เรื่องราวของนาวิกโยธินที่ภาคนี้ก็เปลี่ยนคนใหม่อีกเช่นเคยครับ ตัวเอกคือ เจค คาร์เตอร์ (Mike ‘The Miz’ Mizanin) นาวิกมือดีที่ขอลาพักผ่อนเพื่อเยี่ยมน้องสาว (Ashley Bell และ Camille Sullivan)
The Marine 2 ภาคต่อแบบลงแผ่นครับ โดยเปลี่ยนตัวเอกใหม่มาเป็น โจ ลินด์วู้ด (Ted DiBiase Jr.) นาวิกโยธินมือดีที่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนกับคนรัก (Lara Cox) แต่ที่นั่นดันมีผู้ก่อการร้ายบุกยึด เขาเลยต้องหาทางกำจัดพวกมันพร้อมช่วยผู้บริสุทธิ์ที่เป็นตัวประกันออกมาให้จงได้
สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมติดตามดู Nashville จนจบปี 1 คือเสียงดนตรีครับ แต่ละตอนจะมีบทเพลงแนวคันทรี่เพราะๆ มาให้เราได้ฟังกัน
Hector and the Search for Happiness เป็นหนังที่น่าสนใจดีครับ เรื่องราวว่าด้วยเฮคเตอร์ (Simon Pegg) จิตแพทย์หนุ่มที่น่าจะมีชีวิตอันแสนสุข เพราะงานที่ทำก็ประสบความสำเร็จ มีคนมาให้บำบัดไม่ขาดสาย อีกทั้งยังได้แต่งงานกับสาวสวยสุดเก่งอย่างคลาร่า (Rosamund Pike) อีกด้วย
Sinister 2 ยังคงเป็นหนังสยองที่ดูเอาเพลินได้ครับ เพียงแต่ถ้าถามใจลึกๆ แล้วผมก็ยังชอบภาคแรกมากกว่าค่อนข้างมาก เพราะมันหลอน ลึกลับ ได้อารมณ์ครบเครื่อง และตอนจบก็กระชากความรู้สึกเอาเรื่องอยู่