ตอนที่ 4 ของนักสืบนักปรุง เฮนรี่ รอสส์ (Dylan Neal) ครับ หนนี้เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขารับงานจัดเมนูอาหารให้กับงานเลี้ยงฤดูร้อนของครอบครัวเวสตัน ที่จัดว่ามั่งมีระดับเศรษฐีทีเดียวครับ โดยเขาก็ชวนแม็กกี้ (Brooke Burns) ตำรวจสาวคู่ใจของเขาไปร่วมงานด้วย
ตอนที่ 4 ของนักสืบนักปรุง เฮนรี่ รอสส์ (Dylan Neal) ครับ หนนี้เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขารับงานจัดเมนูอาหารให้กับงานเลี้ยงฤดูร้อนของครอบครัวเวสตัน ที่จัดว่ามั่งมีระดับเศรษฐีทีเดียวครับ โดยเขาก็ชวนแม็กกี้ (Brooke Burns) ตำรวจสาวคู่ใจของเขาไปร่วมงานด้วย
ไม่รู้ว่าจะได้ดูภาคต่อของฉบับนี้เมื่อไรน่ะนะครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยภาคแรกนี่ก็ถือว่าทำออกมาได้เข้มข้น นำเสนอเรื่องราวได้ดี และคู่ควรแก่การดูซ้ำอยู่เหมือนกัน
แล้วก็มาถึงบทสรุปแห่งไตรภาค Fear Street ครับ หนนี้หนังจะพาเราไปพบกับบทเริ่มต้นแห่งคำสาปที่สร้างความสยองให้กับเมืองเชดดี้ไซด์มานานหลายร้อยปี และเรื่องราวของซาร่าห์ เฟียร์ที่เปิดปมไว้ตั้งแต่ภาคแรก ก็จะมากระจ่างเอาภาคนี้ครับ
เรื่องราวของสกุลหลงที่เคยเป็นมาเฟียมาก่อนครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพ่อผู้เป็นเสาหลักของตระกูลก็รู้สึกว่าการทำธุรกิจผิดกฎหมายแบบนี้มันรังแต่จะทำให้ครอบครัวตกอยู่ในโลกแห่งการฆ่าฟัน เลยผลักดันให้ลูกๆ หันไปทำธุรกิจถูกกฎหมาย แต่ทีนี้ก็มีมาเฟียวายร้ายอย่างอาฉี (ฉีเส้าเฉียน) มาพร้อมแผนการล้างบางสกุลหลงและฮุบทุกสิ่งมาไว้ในมือตนเอง
เมื่อดูตัวอย่างแล้ว Things Heard & Seen ทำให้นึกถึง What Lies Beneath ผสมกับกลิ่นอายบ้านผีสิงแบบ The Amityville Horror ครับ ซึ่งสำหรับผมนี่ก็พร้อมดูอยู่แล้วล่ะครับ หนังแนวหลอนๆ ระทึกๆ แบบนี้น่ะ
ในปี 1898 ขณะนั้นอังกฤษกำลังแผ่ขยายอาณานิคมไปยังแอฟริกาโดยมีเยอรมันและฝรั่งเศสเป็นคู่แข่งสำคัญ ผู้พันจอห์น แพ็ตเตอร์สัน (Val Kilmer) เลยถูกส่งไปเพื่อคุมงานสร้างทางรถไฟที่ดินแดนซาโว แต่เมื่อเขาไปถึงก็ต้องพบกับอุปสรรคอันน่าสะพรึง เมื่อมีสิงโตคู่หนึ่งออกอาละวาด ฉายาของมันคือ มาร (The Ghost) และ ทมิฬ (The Darkness) มันเข่นฆ่าคนงานไปมากมายจนคนงานพากันหนีและไม่ยอมทำงานต่อ
ใครที่คาดหมายว่าหนังเรื่องนี้จะจัดเต็ม Effect กระหน่ำแอ็กชัน อุดมฉากเร้าใจลุ้นระทึกแบบที่หนังแนวภัยพิบัติส่วนใหญ่มักจะเป็นกันล่ะก็ ขอบอกตรงนี้เลยครับว่า Only the Brave ไม่ใช่อะไรแบบนั้น
สิ่งแรกที่สะดุดใจผมก่อนดูหนังเรื่องนี้คือ หนังยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 10 กว่านาทีครับ ซึ่งถือเป็นความยาวที่มากอยู่สำหรับหนังสยองสไตล์นี้ เพราะปกติทั่วไปหนังสยองแบบนี้ (แบบที่ว่าด้วยปีศาจหรืออาถรรพ์อะไรสักอย่าง ไล่ล่าคร่าชีวิตคน) มักจะยาวที่ 90 กว่านาที หรืออย่างเก่งก็ 100 นาทีนิดๆ เท่านั้น ใจก็เกิดคำถามเหมือนกันครับว่าเพราะอะไรหนอหนังถึงยาวแบบนี้
Powder เป็นหนังที่มีอะไรให้พูดถึงหลายอย่างอยู่ครับ
ระหว่างดูหนัง Sausalito เรื่องนี้ ใจก็คิดไปครับว่า “สมัยนี้ หนังรักโรแมนติกแบบนี้ มีน้อยจัง”