มาถึงตอนที่ 7 แล้วนะครับ กับหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ (ซึ่งจริงๆ ทำแค่สองภาคจบก็น่าจะพอแล้วล่ะ ภาคที่ตามๆ มาเนี่ยดันทุรังแท้ๆ … ผมก็ช่างดันทุรังดูด้วยนะเน้อะ)
มาถึงตอนที่ 7 แล้วนะครับ กับหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ (ซึ่งจริงๆ ทำแค่สองภาคจบก็น่าจะพอแล้วล่ะ ภาคที่ตามๆ มาเนี่ยดันทุรังแท้ๆ … ผมก็ช่างดันทุรังดูด้วยนะเน้อะ)
ไล่เล่าให้จบครบทุกภาคล่ะนะครับ แล้วเราก็มาถึงตอนที่ 6 แล้วของหนังชุดบ้านผีสิงแห่งอมิตี้วิลล์ ซึ่งภาคนี้โดยส่วนตัวนะครับ ผมมองว่าเป็นภาคที่โอเคที่สุดแล้ว หากเทียบกับบรรดาตอนต่อที่ผ่านๆ มาของหนังชุดนี้ เรียกได้ว่าภาคแรกเข้าท่าสุด ภาคสองยังโอเค และภาคนี้นี่แหละครับที่ยังพอพูดได้ว่าเป็นหนังสยองที่พอจะน่าติดตามบ้าง
ยังจะมีออกมาอีกครับ นี่ก็ภาค 5 แล้วกับเรื่องคำสาปบ้านผีแห่งอมิตี้วิลล์ อ้ะ อ้ะ อ้ะ แต่ภาคนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านเลขที่ 112 โอเชียน อเวนิวแห่งอมิตี้วิลล์เลยนะครับ บ้านคนละหลังน่ะว่างั้นเถอะ
หลังจากภาคที่แล้วโดนกระหน่ำสับแหลก ขนาดทำเป็น 3 มิติก็ยังดึงคนดูไม่ได้ ในที่สุดตำนานเฮี้ยนที่บ้านอมิตี้วิลล์ก็ต้องอำลาจากโรงใหญ่ครับ แต่ไม่ว่าจะยังไง หนังประเภทนี้หากมีลู่ทางทำภาคต่อไว้โกยเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้ เขาก็ย่อมทำกันออกมาครับ แล้วผลก็ออกมาเป็นภาค 4 นี่เอง
ครับ หลังจากการฟ้องร้องระหว่างผู้สร้างกับครอบครัวลัทซ์ในภาคก่อน ทำให้ครอบครัวลัทซ์ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับทีมงานอีกต่อไป ขณะเดียวกันทีมงานเองก็เข็ดแล้วครับกับการเอาเรื่องเล่าเรื่องจริงในตำนานอมิตี้วิลล์มาสร้าง เพราะหากเอาเรื่องจริงของใครมาสร้างก็เหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรครับ คนเล่านั่นก็จะใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเรื่องมาสร้างปัญหาได้ (ดังเช่นกรณีของครอบครัวลัทซ์)
ภาคแรกดัง ภาคสองก็เกิดตามมาครับ เป็นเรื่องปกติ
นี่คือตำนานบ้านผีสิงที่ดังที่สุดในอเมริกาครับ
ภาพยนตร์แนวตื่นเต้นระทึกขวัญที่ผสมไว้หลายแบบเหลือเกินครับ จะเป็นแนวเขย่าขวัญแบบสยองไปเลยก็ได้ เป็นแนวระทึกปน Sci-Fi ก็ได้ หรือจะเป็นหนัง Action Thriller แบบหนังบู๊บนเรือดำน้ำอย่าง Crimson Tide หรือ U-571 ก็ยังได้อีก
ผมว่าคนที่คุ้นเคยกับหนังสยองขวัญฝรั่งน่าจะคุ้นชื่อ “บลัดดี้ แมรี่” ไม่มากก็น้อย (หรือไม่ก็คุ้นจากชื่อเครื่องดื่มชนิดหนึ่งล่ะนะครับ) อันว่าตำนานทั่วไปนะครับ ที่นิยมเอามาเล่าที่สุดเกี่ยวกับ Bloody Mary ก็คือ มีคำกล่าวว่าเธอคือแม่มดหรือผีร้ายที่จะโผล่มาเอาชีวิตคนหากใครบังอาจเรียกชื่อบลัดดี้แมรี่ติดต่อกันสามครั้งหน้ากระจก ซึ่งตำนานก็มีหลากแบบกันไปครับ บ้างก็ว่าต้องไปเรียกหน้าอาคารเรียน บ้างก็เอาตำนานไปผูกกับควีนแม่รี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ
อีกหนึ่งผลงานโดยผู้กำกับคนโปรดของผม Tim Burton ที่ผมติดใจรสมือพี่ท่านมานานตั้งแต่เด็กๆ