ปีเตอร์ (เฉินโฮ่ว, Peter Chen Hou) เอเจนซี่นักร้องที่กำลังคั่วอยู่กับหลิวเหวินหยิง (แองเจล่า หยูซิน, Angela Yu Chien) นักร้องสาวที่แต่งงานแล้ว และเพื่อที่พวกเขาจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันปีเตอร์เลยวางแผนจัดทัวร์ให้ 3 นักร้องสาวอย่าง เยี่ยฟาง (เหอลี่ลี่, Lily Ho), หลินฉื่อหลาน (ติงเพ่ย, Betty Ting Pei) และ ฉางผิง (ฉินผิง, Chin Ping) ได้เดินสายไปทัวร์ทำการแสดงที่ไทเป โตเกียว และกรุงเทพ แล้วปีเตอร์ก็จะฉวยโอกาสมากุ๊กกิ๊กกับเหวินหยิง
แต่เผอิญว่าเยี่ยฟางก็ชอบปีเตอร์ครับ เธอเลยพยายามจะดึงเขากลับมา ส่วนเพื่อนสาวอีก 2 นางก็กะว่าทัวร์ครั้งนี้จะทำให้ได้เจอกับหนุ่มหล่อๆ รวยๆ มาเคียงกาย แต่มันจะเป็นไปตามนั้นไหมก็ต้องมาติดตามกันครับ
สมทบด้วย หม่าไห่หลุน (Helen Ma) เป็น หลี่เสี่ยวเหลียน ลูกคนรวยที่มาแย่งแฟนของฉางผิง, เหอฟาน (Ho Fan) เป็นซุนเจียเหวิน แฟนของฉางผิงที่ไปหมั้นกับเสี่ยวเหลียนแทน, จางเพ่ยซัน (Chang Pei Shan) เป็นจินหงเฟย ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีที่ฉื่อหลานเริ่มชอบเขาทีละนิด แม้เขาจะจนก็ตาม, เว่ยผิงอ้าว (Wei Ping Ao) เป็นคุณเฉียง เศรษฐีที่ฉื่อหลานกับฉางผิงหมายตาไว้ในตอนแรก, กู้เหวินจง (Ku Wen Chung) เป็นคุณหลู สามีวัยดึกของเหวินหยิง, จินฟง (Chin Feng) เป็น เจียงจงเหลียง หนุ่มพเนจรที่ตะลอนทำงานไปทั่ว แล้วก็ได้เจอกับฉางผิงหลายหนระหว่างเดินทาง และหนังกำกับโดย Inoue Umetsugu ครับ
เป็นอีกเรื่องที่ไม่คาดหวังครับ แต่ดันเพลินแฮะ หนังมันเล่าไปเรื่อยๆ ได้ลื่นพอตัว ดาราแต่ละคนก็เล่นได้ดี ซึ่งตอนแรกผมก็แอบกลัวครับว่าหนังจะออกแนวสาวๆ ไล่ตามจับผู้ชายอย่างเดียวหรือเปล่า แต่ก็ไม่ครับ สาวๆ ในเรื่องแม้จะอยากได้คนรวยๆ เป็นแฟน แต่พวกเธอก็ยังมีความน่ารักในแบบของตัวเอง ที่สำคัญคือพอถึงเวลาจริงๆ แล้วพวกเธอก็เลือกที่จะชอบคนที่นิสัยใจคอมากกว่าจะมองที่เพียงเงินทองของประดับ
จุดดีอีกอย่างคือหนังมีเพลงเพราะๆ มาคั่นเป็นช่วงๆ ครับ เพราะ 3 สาวตัวเอกเป็นนักร้อง เราเลยจะได้เห็นเธอแสดงโชว์บนเวทีเป็นพักๆ สำหรับผมก็ยิ่งทำให้หนังเพลินขึ้นไปอีก เพราะเนื้อเรื่องก็เบาๆ กุ๊กกิ๊กน่ารักๆ แล้วก็บวกกับเพลงเพราะๆ อีก เรียกว่าถ้าจะเปิดไปทำอย่างอื่นไปก็เหมาะครับ – ประมาณว่าไม่ต้องตั้งใจดูมากก็รู้เรื่อง – หรือจะดูเพื่อผ่อนคลายเบาสมองก็ได้เหมือนกัน
อีกหนึ่งข้อดีคือหนังมาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยครับ สำหรับผมนี่ถือเป็นของดีนะ เพราะเราจะได้โอกาสในการเห็นกรุงเทพเมื่อกว่า 50 ปีก่อน แล้วก็ตระหนักว่าบ้านเราก็มีที่สวยๆ งามๆ น่าไปเยอะ แบบเดียวกับตอนหนังไปถ่ายที่ไทเปและญี่ปุ่นน่ะครับ เราก็จะได้เห็นบรรยากาศสมัยนั้นของบ้านเมืองเขา ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีอัตลักษณ์ของตนเอง ก็เหมือนได้แอบเที่ยวแบบย้อนเวลาหน่อยๆ
สรุปว่าเป็นหนังดูเอาเพลินที่ใช้ได้ครับ ซึ่งอีกอย่างหนึ่งที่ผมใช้วัดว่าหนังใช้ได้สำหรับผมไหมก็คือ ถ้าผมดูไปได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องหันมองนาฬิกา ไม่ต้องเช็คว่าดูไปกี่นาทีหรือหนังยังเหลืออีกกี่นาที ก็แสดงว่าหนังตอบโจทย์บันเทิงสำหรับผมได้อยู่ ซึ่งก็แอบทึ่งเล็กๆ เพราะหนังยาวตั้ง 1 ชั่วโมงกับ 50 นาที จัดว่ายาวกว่าเวลามาตรฐานของหนัง Shaw Brothers ไปพอสมควร แต่ผมยังรู้สึกเรื่อยๆ กับมันได้ ก็แสดงว่าของเขาใช้ได้ประมาณหนึ่งครับ
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)











