ดาร์บี้ (Havana Rose Liu) ต้องรีบขับรถไปหาแม่ที่กำลังป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ระหว่างทางเกิดพายุหิมะเลยไปต่อไม่ได้ แล้วก็ต้องมาหยุดตรงจุดแวะพักเพื่อรอให้หิมะซาลง ซึ่งที่นี่เธอก็ได้เจอกับคนอื่นๆ ที่มาแวะพักเพราะพายุเหมือนกัน

แต่แล้วเธอก็พบว่ามีเด็กสาวถูกจับมัดว้ในรถคันหนึ่ง เธอเลยต้องหาทางช่วยเด็กออกมา แต่ปัญหาคือเธอไม่รู้เลยว่าใครคือคนร้าย อันนำเธอไปสู่อันตรายแบบคาดไม่ถึง

ผมตามมาดูเรื่องนี้เพราะติดใจ Havana Rose Liu จากเรื่อง AfrAId ครับ พอรู้ว่าเธอเล่นนำเรื่องนี้เลยตามมาดู แล้วก็พอดีที่ผมดูเรื่องนี้หลังจากดูเรื่อง Drop ซึ่งแนวทางมันจะคล้ายๆ กันครับ นั่นคือหญิงสาวที่ไปติดอยู่กลางเหตุร้ายที่เธอต้องช่วยใครบางคนและขณะเดียวกันก็ต้องหาทางเอาตัวรอด รวมถึงต้องหาตัวคนร้ายด้วย

พอดูแล้วก็ตระหนักครับว่าหนังแนวนี้เนี่ย ส่วนที่ยากที่สุดในการทำไม่ได้อยู่ตรงไคลแม็กซ์ แต่อยู่ตรงเหตุการณ์ระหว่างทางครับ เพราะช่วงไคลแม็กซ์นี่มันจัดเต็มเรื่องความระทึกตื่นเต้นได้เต็มเม็ดอยู่แล้ว เพราะปมต่างๆ ย่อมต้องดูเฉลย ทำให้คนทำสามารถใส่อะไรลงมาได้แบบเต็มที่ แต่ตอนช่วงต้นๆ ของหนังที่ตัวเอกยังไม่รู้อะไร คนร้ายก็ยังไม่เผยไต๋อะไรมาก ช่วงนี้แหละครับที่จะคิดบทได้ยากหน่อย เพราะเผยอะไรมากไปก็ไม่ได้ เลยทำให้ช่วงต้นๆ จนไปถึงกลางๆ เรื่องนี่มันอาจจะเรื่อยและน่าสนใจไม่มาก – แต่ถ้าเรื่องไหนทำสนุกมันก็จะสนุกไปเลยน่ะครับ

ส่วนเรื่องนี้ก็อยู่ในข่ายที่ตอนต้นถึงตอนกลางออกจะเรื่อยๆ และเชื่องๆ อยู่สักหน่อย อันนี้แม้จะเข้าใจแต่ก็ต้องขอว่าไปตามจริงน่ะครับว่ามันก็อืดๆ ง่วงๆ อยู่เหมือนกัน ต้องรอจนดาร์บี้เริ่มเจอเงื่อนงำ เริ่มรู้อะไรมากขึ้นหนังก็ค่อยน่าสนใจขึ้น แต่ผมว่าความสนุกของหนังมันจะมาจริงๆ เอาตอน 30 นาทีสุดท้ายครับ ช่วงนั้นนี่จากที่ผมง่วงๆ ก็เป็นอันตื่นเลยนะ เรื่องปมต่างๆ ผมถือว่าใช้ได้ครับ แล้วช่วงท้ายนี่ก็มีอะไรให้ลุ้นให้หวาดเสียวกันแบบไม่ขาดช่วงเลย

ดาราในเรื่องมีกันอยู่ไม่กี่คนครับ แต่ละคนก็ถือว่าสวมบทบาทของตัวเองได้ดี อย่าง Liu นี่ก็เป็นตัวเอกประเภทที่ไม่ใช่คนดีจ๋าแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอเองก็มีปมมีปูมหลังอยู่เหมือนกัน ส่วนรายอื่นก็ถือว่าเล่นได้ดีครับ และแอบดีใจที่ได้เจอ Dennis Haysbert มาร่วมแสดงด้วย และเพราะหน้าของเขานี่แหละครับที่ทำให้ผมนึกถึงซีรี่ส์ 24 จนได้ ซึ่งพอพูดถึงหนังหรือซีรี่ส์ที่ว่าด้วยตัวเอกต้องตกอยู่ในสถานการณ์อะไรบางอย่าง แล้วก็ต้องสืบไปแก้เกมไปนี่ ผมจะนึกถึง 24 เสมอ เพราะมันสนุกมากจริงๆ และแทบไม่มีช่วงอืดถืดน่าเบื่อเลย

โดยรวมหนังก็ถือว่าใช้ได้สำหรับแนวนี้ครับ ยังไม่ถึงขั้นเด็ดแต่ก็ไม่ผิดหวังนะ ดูได้เพลินๆ ขอเพียงทนเอาหน่อยกับช่วงช้าๆ ในตอนต้นๆ น่ะครับ ถ้าทนได้ผมเชื่อว่าช่วง 30 นาทีสุดท้ายก็น่าจะทำให้ท่านพอใจได้บ้างล่ะ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)