เมื่อ บัดดี้ “เอซ” อิสราเอล (Jeremy Piven) ตัดสินใจจะมาเป็นพยานเพื่อเล่นงานมาเฟียใหญ่ เขาก็เลยกลายเป็นคนที่มีค่าหัวระดับ $1 ล้านเหรียญ ซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้สารพัดนักฆ่าตรงดิ่งมาเพื่อเก็บเขาให้ได้
เรื่องนี้กะดูเอามันส์ครับ และผลที่ได้ก็นับว่าใช้ได้อยู่ สไตล์ของหนังนี่ทำให้นึกถึง Lock, Stock and Two Smoking Barrels แล้วก็ Snatch ซึ่งเป็นงานของ Guy Ritchie ทั้งคู่ แล้วหนังเรื่องนี้ก็มาอีหรอบนั้นครับ นั่นคือมีตัวละครเยอะแยะ ออกแนวฝนตกขี้หมูไหล พล็อตตอนแรกจะดูกระจัดกระจายก่อนที่ทุกอย่างจะมาป๊ะกันในตอนท้าย แล้วลีลางานภาพก็หวือหวาและมาพร้อมลูกเล่น สารภาพเลยว่าตลอดการดูนี่มันทำให้ผมนึกถึง Guy Ritchie ตลอดจริงๆ
แต่ก็คงต้องว่ากันตามตรงว่าผมยังไม่ถึงขั้นชอบมากนักครับ คือมันก็สนุกอยู่ เพลินดี แต่อาจเพราะผมเคยเจอพี่ Guy แกปล่อยของใส่มาแล้วหลายรอบ นอกจากหนังที่เอ่ยไปก็ยังมี The Gentlemen อีก ผมก็เลยเพลินกับหนังเรื่องนี้แบบยังไม่สุด เพราะเคยเจอของเด็ดกว่ามาแล้ว และอีกอย่างคือผมว่าเรื่องนี้บางจังหวะบางช่วงมันก็ยังช้าไปน่ะครับ หรือการผูกนั่นโยงนี่ก็ยังไม่ถึงขั้นลื่นแบบจัดๆ มันเลยพอจะโอเคกับหนัง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นชอบ
ยอมรับครับว่าฉากสรุปเรื่องในตอนท้ายถือว่าทำได้ดี ทำให้หนังดูมีอะไรขึ้นมาอีกเยอะ แต่ก็นั่นล่ะครับ คือช่วงต้นกับช่วงกลางผมว่ามันก็ยังสนุกได้อีก ยังเพลินได้อีก พูดตรงๆ คือผมก็อยากจะชอบน่ะนะครับ แต่พื้นที่ตรงนี้ก็คงต้องขอว่าไปตามความรู้สึก ว่ามันโอเค พอสนุกอยู่ แต่ยังไม่ถึงขั้นเด็ด
กระนั้นก็มีคนทำหนังท่านหนึ่งที่ออกตัวเลยว่าชอบหนังเรื่องนี้มาก เขาคือ Terrence Malick ผู้กำกับ The Thin Red Line น่ะครับ เขายกให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังโปรดตลอดกาลของเขาไปเลย – ก็อย่างที่ผมบอกบ่อยๆ นั่นแหละครับ การเจอหนังที่เรารักเราชอบนั้นถือเป็นเรื่องดีเสมอ
และหนังก็ประสบความสำเร็จไปพอตัวครับ ทำเงินทั่วโลกราว $57.3 ล้าน จากทุน $17 ล้าน ก็ถือว่ากำไรอยู่ครับ
เอาเป็นว่าถ้าท่านชอบหนังแนวฝนตกขี้หมูไหล เรื่องนี้ก็จัดว่าน่าลองครับ ผมเองแม้จะยังไม่ถึงขั้นชอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าดีกรีความเพลินมันก็ใช้ได้อยู่
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)











