
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ในหัวผมจะมีคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาอยู่เป็นระยะๆ นั่นคือคำว่า “ผมเข้าใจนะ ผมเข้าใจ”
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ในหัวผมจะมีคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาอยู่เป็นระยะๆ นั่นคือคำว่า “ผมเข้าใจนะ ผมเข้าใจ”
Horrible Bosses 2 ถือเป็นภาคต่อที่ดูเพลินไม่หยอกครับ แม้หลายอย่างจะลงล็อคเดิม ดาราทีมเดิมเป็นส่วนใหญ่ และในบางจังหวะหนังอาจดูช้าๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าสนุก คลายเครียดให้กับผู้ชมได้ไม่เลว
Into the Woods ทำให้ผมนึกถึง Sweeney Todd โดยเฉพาะในส่วนของทำนองเพลง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะหนังทั้ง 2 เรื่องต่างก็มีคนประพันธ์เพลงชื่อ Stephen Sondheim เหมือนกัน
ออกตัวก่อนครับว่าชอบแจ็ค ไรอันมาก ดูหนังครบทุกภาค อ่านนิยายครบทุกเล่ม ซึ่งเรื่องราวของแจ็ค ไรอันนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวนะครับ มันจะไม่เน้นแอ็กชันแบบเจมส์ บอนด์ แต่จะออกแนวกรองข่าว วิเคราะห์ข้อมูล ตีความการกระทำของบุคคลสำคัญในประเทศต่างๆ
พูดได้เต็มปากว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้เข้มข้น ขึงขัง มีพลังโดนใจผมแบบสุดๆ ครับ จริงๆ ตอนแรกก็กะแล้วล่ะว่าคงชอบ แต่ไม่นึกว่าจะชอบมากขนาดนี้ ถึงขั้นดูจบแล้วอารมณ์ไม่จบทีเดียว
ด้วยความที่หนังว่าด้วยโลกซึ่งไร้ผู้คนหลังเกิดภัยพิบัติ อีกทั้งชื่อ Z ก็อาจทำให้หลายคนคิดไปถึงซอมบี้ ก็เลยต้องบอกกันก่อนครับว่าหนังไม่มีซอมบี้หรือปีศาจอะไรทั้งนั้น
เรื่องนี้ชอบตั้งแต่ตอนดูโรงครับ บอกตรงๆ ว่าเสียดายมากที่หนังล่ม คือหนังทำเงินไปแค่ $52 ล้านจากทั่วโลก แต่เงินที่ลงทุนไปอย่างต่ำคือ $80 ล้าน แน่นอนครับว่าเจ๊งสนิท
ผมว่าหนังสไตล์นี้ทำยากเหมือนกันนะครับ เพราะมันต้องลงล็อคทั้งความโรแมนติกผสมฮา มาบวกเข้ากับแอ็คชั่นแนวสายลับ ซึ่งเรื่องก่อนที่พยายามเล่นสูตรนี้อย่าง Knight And Day ก็ถือว่าพอทำได้แบบเสมอตัว ไม่เลวแต่ก็ยังไม่โดนเต็มร้อย ก็แอบลุ้นก่อนดูเหมือนกันครับว่าแล้วเรื่องนี้จะเข้าท่าแค่ไหน
เรื่องนี้ถือเป็นหนังแนวแอ็กชันลุ้นระทึกที่ดูสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ สมศักดิ์ศรีผู้กำกับ Tony Scott (Top Gun, Crimson Tide และ True Romance) แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงมีอยู่เพียงประการเดียว… คาดไม่ถึงว่านี่จะกลายเป็นงานกำกับชิ้นสุดท้ายของของเขา
เรื่องอื่นรอดูได้ แต่สำหรับเรื่องนี้รอไม่ไหวจริงๆ ครับ เข้าโรงแล้วขอดิ่งไปดูให้กระจ่างใจกันไปเลย ทั้งในฐานะคนที่ติดตามหนังชุดนี้มานาน และในฐานะที่อยากรู้ว่า Trek ภาคนี้จะออกมาอย่างไร หลังจากเปลี่ยนมือผู้กำกับไปเป็น Justin Lin