นี่คือฉบับรีเมคของ Anaconda ฉบับปี 1997 ครับ
โครงเรื่อถือว่าคล้ายกันเลย เพียงแต่เปลี่ยนจากคณะถ่ายทำสารคดีมาเป็นนักแสดงคณะละครสัตว์ที่กำลังจะเดินทางไปยังจุดหมายโดยผ่านเขตป่าฝน แล้วทีนี้ระหว่างทางพวกเขาก็ได้เจอกับเจฟฟ์ (หยินชือเหว่ย, Terence Yin) นักล่างูที่ดูเหมือนจะมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง แล้วพอถึงจุดหนึ่งทุกคนก็ได้รู้ครับว่าเจฟฟ์มาเพื่อล่างูยักษ์เอาไปสร้างความร่ำรวยให้ตัวเอง ส่วนชาวคณะละครสัตว์ก็กำลังจะกลายเป็นเหยื่อที่เจฟฟ์ใช้ในการล่องูออกมา
ระหว่างดูนี่ผมนึกถึงฉบับปี 1997 แทบตลอดครับ เพราะเนื้อเรื่องมันมาทางเดียวกัน หลายฉากนี่ทำให้นึกถึงฉบับเก่าแบบชัดเจน ยิ่งฉากที่ชาวคณะเดินในน้ำแล้วกล้องก็ถ่ายมุมสูงให้เราเห็นว่าในน้ำนั้นกำลังมีงูยักษ์เลื้อยอยู่ นี่ก็ยกมาจากภาค 2 แบบเต็มๆ
ยอมรับแบบตรงๆ ว่าผมชอบฉบับเก่ามากกว่าครับ มันดูพอดีและกำลังดีกว่าในหลายๆ จุด อย่างดารานี่ของเก่าผมว่ากำลังดีนะ แต่ละคนก็รับบทของตัวเองได้โอเค ส่วนฉบับใหม่นี่ถ้าไม่เล่นแบบล้นเกินก็จะดูนิ่งเกิน อย่างเจฟฟ์นี่คือพยายามปั้นหน้าโหดหน้าไว้ใจไม่ได้ตลอดจนบางช่วงนี่แอบขำเลยครับว่าพี่จะพยายามอะไรขนาดน้าน หรือบางตัวละครก็จะออกมาล้นๆ แบบกลัวเกิน เล่นเกิน ในขณะที่บางคนก็ดูเรื่อยๆ อารมณ์ไม่ค่อยออกมานัก คือระหว่างดูนี่ผมก็แอบสับสนตัวเองนะ เพราะเห็นหน้าตัวละครกลุ่มหนึ่งก็จะรู้สึกว่ามันล้นจนบางทีตาที่จะถลนออกมา แต่พอเห็นอีกกลุ่มก็จะรู้สึกเฉยๆ นิ่งๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก – พอถึงจุดหนึ่งก็กลายเป็นขำไปครับ สำหรับผมน่ะ 5555
ส่วนงูนี่ก็ CG เต็มๆ กลายเป็นว่ายิ่งดูยิ่งระลึกถึงฉบับเก่าที่มีการผสมระหว่างงู CG กับงูกลเข้าด้วยกัน หลายฉากในฉบับเก่ามันเลยให้อารมณ์จริงในระดับหนึ่ง แต่กับฉบับนี่นี้ โอเคครับ มันก็พอได้อยู่น่ะ มีไม่เนียนบ้างก็พอรับได้ แต่ไปๆ มาๆ ที่ไม่เนียนนี่คือฉากคนโดนงูรัด คือมันดูออกเลยน่ะครับว่าพี่เขาเกร็งแบบตั้งใจ มันเลยดูไม่เนียนเท่าไหร่ – ผมนี่นึกถึงฉบับเก่าเลยนะ เพราะหลายฉากนี่มันทำถึง ชนิดที่รู้สึกเลยว่างูกำลังบดกระดูกเหยื่อทีละน้อย แต่กับฉบับนี้มันไม่ถึงอารมณ์นั้น แล้วผมว่าคนทำก็อาจคิดแบบนั้นด้วยเหมือนกันเลยต้องมีการใส่บทพูดแบบ “มันกำลังบดกระดูกเขาอยู่ ดังกร็อบเลย” อะไรประมาณนี้ คือเหมือนต้องพยายามชงน่ะครับ เพราะอารมณ์และภาพมันยังไม่ถึง
และสิ่งที่ผมรู้สึกที่สุดคืออะไรรู้ไหมครับ มันคือดนตรีครับ อันนี้บอกเลยว่าระหว่างดูนี่ดนตรีจากหนังภาคต้นฉบับมันก้องอยู่ในหัวผมตลอดเวลา เพราะดนตรีมันถึงมาก ทำเอาจำได้ถึงทุกวันนี้แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี และยิ่งจำได้เพราะละครบ้านเราเอาไปใช้เปิดบ่อยมาก ใช้ในหลายบริบทตั้งแต่ฉากแอ็คชั่น ฉากที่ตัวร้ายทำเรื่องร่ายๆ เรื่อยไปจนถึงนางร้ายกำลังจะตบกัน ในขณะที่ฉบับนี้ดนตรีแทบไม่มีผลครับ มันไม่ได้บิ้วเราสักเท่าไหร่เลย
แต่ถ้าถามว่าหนังมันแย่มันเห่ยอะไรขนาดนั้นเลยไหม ผมว่าก็ไม่หรอกครับ จริงๆ มันก็ดูได้ในฐานะหนังสัตว์โลกน่ารักนั่นแหละ เพียงแต่ฉบับเดิมมันกลมกล่อมลงตัวและน่าจดจำกว่า ส่วนฉบับนี้ด้วยความที่มันเดินเรื่องแบบภาคแรก ต่างแค่รายละเอียดนิดหน่อยมันเลยอดไม่ได้ที่จะนึกถึงต้นฉบับ แต่หากดูเฉพาะกับเรื่องนี้ ผมว่ามันก็พอกล้อมแกล้มนะ ดูเอามันส์ได้ตามสไตล์ เพียงแต่ถ้าท่านต้องเลือกระหว่างดูฉบับนี้กับฉบับปี 1997 อันนี้ก็ขอแนะนำเลยว่า ดูของปี 1997 น่าเวิร์คกกว่าครับ
ส่วนผมก็ตามมาดูแบบเอามันส์ ไม่คาดหวังอะไร แต่ก็กลายเป็นว่าทำให้อยากเอาฉบับเก่ามาดูใหม่อีกสักรอบ (ทั้งที่เคยดูไปหลายรอบแล้วนะนั่น) และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือตามดูให้ครบครับ ประมาณว่าถ้าพี่กล้าทำผมก็กล้าดูนั่นแหละ
ดาวครึ่งครับ
(5/10)












